6 กลยุทธ์การขายของออนไลน์ สร้างยอดขายให้ทะลุเป้า!

กลยุทธ์การขายใครว่าไม่สำคัญ? เมื่อขายของออนไลน์เติบโตอย่างต่อเนื่อง และใคร ๆ ก็เริ่มผันตัวมาเป็นแม่ค้าออนไลน์กันมากขึ้น การเตรียมความพร้อมและวางกลยุทธ์ให้กับร้านค้า จึงเป็นเรื่องสำคัญขั้นพื้นฐานที่พ่อค้า – แม่ค้าออนไลน์มือใหม่ต้องทำความใส่ใจเป็นพิเศษค่ะ เพราะนั่นหมายถึงยอดขายที่กำลังตามมา วันนี้พิมเพลินมี 6 เทคนิคกลยุทธ์การขายของออนไลน์ ช่วยเพิ่มรายได้ให้ร้านค้ามาฝากกันค่ะ

jumbo jili

  1. กลยุทธ์การขาย : สำรวจกลุ่มเป้าหมาย
    ก่อนเปิดร้านขายของออนไลน์เพื่อขายอะไรสักอย่าง หรือทำธุรกิจอะไรก็ตาม อย่างแรกที่เรารู้ก่อนเสมอนั่นก็คือ “ลูกค้าของเราคือใคร” เพราะกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มจะมีวิธีนำเสนอการขายและการประชาสัมพันธ์ที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้นต้องรู้จักลูกค้าของเราให้ดีก่อน เพราะนั่นคือก้าวแรกของการทำกลยุทธ์การขายค่ะ
  2. กลยุทธ์การขาย : กำหนดภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ของตัวเอง
    ขายของออนไลน์ โดยเฉพาะบนโซเชียล ต้องมีคาแรคเตอร์ชัด การกำหนดภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มจุดเด่นให้ร้านค้าเป็นที่น่าสนใจ และช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าเราขายสินค้าที่มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงในท้องตลาด การสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ รวมถึงการพรีเซนต์สินค้าที่โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร จะเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้แบรนด์และสินค้าของเราก็จะน่าสนใจมากขึ้นค่ะ

สล็อต

ยกตัวอย่างเช่น ร้านขายเทียนหอม “Aramo Aroma” ที่สร้างคาแรคเตอร์ของแบรนด์ให้ดูตลกโบ๊ะบ๊ะ ขายขำ เข้าถึงลูกค้าง่าย ไม่ว่าจะเป็น วิธีเล่าเรื่อง, การพูดคุยกับลูกค้า หรือตั้งชื่อสินค้าให้แหวกจากคนอื่นอย่าง “เทียนหอมกลิ่นกุฏิพระ” ทั้งที่ความจริงแล้วเทียนหอมกลิ่นนี้เป็นกลิ่นไม้จันทร์หอม เห็นมั๊ยคะว่า แค่วางภาพลักษณ์ให้โดดเด่น พรีเซนต์สินค้าให้ไม่ซ้ำใคร ก็กวักมือเรียกลูกค้าได้ในระดับหนึ่งแล้ว

  1. กลยุทธ์การขาย : ใช้โซเชียลให้เป็นประโยชน์
    โซเชียลมีเดียมีบทบาทอย่างมากที่ทำให้เราใกล้ชิดกับลูกค้าค่ะ เพราะแทบเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคนไปแล้ว และแน่นอนว่าลูกค้าไม่ได้อยู่แค่แพล็ตฟอร์มเดียวแน่นอน ฉะนั้น! ลูกค้าอยู่ที่ไหน เราต้องอยู่ที่นั่น มีหลายโซเชียลยิ่งดี ทั้ง Facebook, LINE OA , Instagram หรือแอปพลิเคชันอื่น ๆ เพื่อคอยรองรับการสื่อสารและเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะเจอร้านของเรามากขึ้น รวมถึงยังเป็นการเพิ่มรายได้อีกหลาย ๆ ช่องทางไปในตัว

สล็อตออนไลน์

  1. กลยุทธ์การขาย : สร้างคอนเทนต์ที่ใช่ ให้คนที่ชอบ และถูกแพลตฟอร์ม
    การสร้างคอนเทนต์ให้น่าสนใจ เป็นกลยุทธ์การขายที่ร้านค้าออนไลน์ใช้ทำการตลาดและขายสินค้าค่ะ แต่เราต้องทราบก่อนค่ะว่าช่องทางการขายแต่ละแพล็ตฟอร์มจะสร้างคอนเทนต์ที่ต่างกัน เช่น

ขายของออนไลน์บน Facebook Page – อาจจะโพสต์คอนเทนต์เน้นการเล่าเรื่อง (storytelling) ให้สินค้าดูมีที่มาที่ไป มีรูปภาพหรือวิดีโอสินค้าประกอบ

ถ้าขายของบน Instagram – ควรเน้นรูปภาพที่สวย หรือวิดีโอที่สั้น กระชับ ข้อความไม่ต้องยาวมาก เน้นบอกว่าขายอะไร รายละอียดสินค้าเป็นยังไง ราคาเท่าไหร่

ขายของบน LINE OA – ควรเป็นคอนเทนต์การอัปเดตสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ โปรโมชั่นล่าสุด ฯลฯ

jumboslot

ขายบน Twitter – ลูกค้าที่อยู่บนแพล็ตฟอร์มนี้ จะชอบคอนเทนต์ควรสั้นเข้าใจง่าย อาจจะเกริ่นได้นิดหน่อยแต่ไม่ควรยาวเกินไป หรือ คอนเทนต์ประเภทแนะนำสินค้าที่ใช้ดีจนต้องบอกต่อ

  1. กลยุทธ์การขาย : จัดทำแคมเปญ โปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า
    จัดทำแคมเปญ ทำโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่สามารถเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าเป็นอย่างดีเลยค่ะ ลูกค้าหลาย ๆ คน ได้ยินหรือเห็นสัญลักษณ์อะไรก็ตามที่สื่อถึงการจัดทำโปรโมชั่นของร้านค้า แน่นอนค่ะว่ามีลูกค้าเข้ามาแน่นอน เช่น การลดราคาสินค้า, จัดโปร 1 แถม 1 หรือการแจกสินค้า เป็นต้น ซึ่งหากโปรโมชั่นที่แม่ค้าออนไลน์เลือกใช้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าของเราได้ ก็จะส่งผลให้สามารถเพิ่มยอดขายได้มากยิ่งขึ้นค่ะ

slot

  1. กลยุทธ์การขาย : สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าด้วยไลฟ์สด
    อีกหนึ่งกลยุทธ์การขายที่เข้ามาช่วยสร้างยอดขายกับแม่ค้าออนไลน์ในยุคนี้ นั่นคือการ “ไลฟ์สดขายของ” เพราะนอกจากจะช่วยให้ปิดยอดขายได้ทันที ช่วยในให้ลูกค้ามั่นใจในเรื่องของตัวสินค้า และด้านการใช้งานผลิตภัณฑ์ เพราะเราสามารถพูดคุย ถาม – ตอบกับลูกค้าแบบเรียลไทม์บนโลกออนไลน์ ยิ่งไปกว่านั้นแม่ค้าออนไลน์ยังสามารถ นำเสนอการขายสินค้าได้อย่างอิสระ แต่ถ้าเป็นแม่ค้าไลฟ์สดแบบมือใหม่ อาจจะยังเขิน ๆ อยู่บ้าง แต่ของแบบนี้ฝึกฝนกันได้ค่ะ และถ้าฝึกฝนบ่อย ๆ พิมเพลินรับรองว่า กลยุทธ์การขายด้วยวิธีไลฟ์สดจะช่วยสร้างรายได้ให้กับร้านค้าของคุณอย่างแน่นอน! เพิ่มกลยุทธ์เพื่อเพิ่มกำไรการค้า

เคล็ดลับขายของแบบดรอปชิป (Dropship) ทำอย่างไร ให้ขายดี

ขายของออนไลน์เดี๋ยวนี้มีหลายแบบมากเลยค่ะ แถมยังสร้างรายได้ไม่มีสิ้นสุด เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็สามารถเป็นแม่ค้าออนไลน์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีสินค้าอยู่ตัวเอง ไมต้องลงทุนเยอะ ก็สามารถสร้างรายได้ได้แล้ว
ซึ่งการขายของออนไลน์ที่พิมเพลินกำลังพูดถึงอยู่นั่นก็คือ การขายแบบ Dropship (ดรอปชิป) นั่นเองค่ะ แม่ค้ามือใหม่สงสัยกันแล้วใช่มั๊ยละคะว่า Dropship คืออะไร วันนี้พิมเพลินจะมาเล่าให้ฟังกัน พร้อมบอกทั้งข้อดี และเคล็ดลับเบื้องต้นในการขายของแบบดรอปชิปให้ขายได้ และ ขายดี

DROPSHIP (ดรอปชิป) คืออะไร?
Dropship (ดรอปชิป) คือ การขายสินค้าแบบที่ร้านค้าไม่ต้องมีสินค้าที่จะขายเป็นของตัวเอง หรือที่เราเข้าใจกันในรูปแบบของ “ตัวแทนจำหน่าย” การขายของแบบดรอปชิปจะเป็นการนำสินค้าของคนอื่นมาขาย โดยที่พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ไม่ต้องสต๊อกสินค้า หรือส่งของเอง เพียงแค่นำข้อมูลสินค้ามาโพสต์ขายลงแพลตฟอร์มโซเชียลต่าง ๆ เช่น Facebook, LINE OA, IG หรือ Twitter และบวกกำไรเพิ่ม หากเราขายสินค้าได้ เราค่อยไปสั่งสินค้าจากคนขายหรือโรงงานให้เขาส่งสินค้าให้ลูกค้าของเราอีกทีค่ะ

jumbo jili

ข้อดีของการขายของออนไลน์แบบ DROPSHIP (ดรอปชิป)
-ใช้ต้นทุนน้อย
เพราะขายของแบบดรอปชิป แม่ค้าออนไลน์สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ๆ ไม่ต้องมีสินค้าอยู่ที่ตัวเองเลยสักชิ้นก็ได้ แค่มีช่องทางโปรโมทสินค้าเท่านั้น จนกว่าจะมีลูกค้าเข้ามาสั่งสินค้าและชำระเงิน
-เริ่มต้นง่าย ลดขั้นตอนซับซ้อน
การขายแบบดรอปชิป จะตัดปัญหาเรื่องการหาโกดังสินค้า สต๊อกสินค้า แพ็คของ และการจัดส่งออกไป ตรงนี้จึงเป็นข้อดีของ Dropship สิ่งที่แม่ค้าออนไลน์ต้องมีก็แค่แล็ปทอป 1 เครื่อง ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ก็สามารถเริ่มต้นได้แล้ว
-สินค้ามีความหลากหลาย เลือกขายได้
พ่อค้า – แม่ค้าออนไลน์สามารถขายอะไรก็ได้ ยิ่งสินค้าประเภทไหนที่กำลังฮิต กำลังเป็นที่นิยมก็สามารถนำมาโพสต์ขายได้ เพราะไม่สต๊อกสินค้าเอง ส่วนสินค้าชิ้นไหนที่ขายไม่ดี เทรนด์เริ่มตก ก็สามารถเลิกขายได้เลย
-ทำงานง่าย ขายที่ไหนก็ได้
ขายของออนไลน์แบบดรอปชิป เราสามารถทำงาน ขายของออนไลน์ที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีเพียงสมาร์ทโฟนหรือแทปเล็ต และอินเทอร์เน็ตเท่านั้นค่ะ เพราะตราบใดที่เรายังสามารถติดต่อพูดคุยกับลูกค้าและเจ้าของสินค้าได้อยู่ ก็สามารถขายของดรอปชิปได้แล้วค่ะ

สล็อต

ข้อจำกัดของการขายแบบ DROPSHIP (ดรอปชิป)
-การแข่งขันค่อนข้างสูง
เพราะว่าใคร ๆ ก็สามารถเริ่มต้นขายของแบบดรอปชิปได้ง่าย ๆ การแข่งขันจึงค่อนข้างสูงตามไปด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของราคา เพราะถ้าตั้งราคาสูงเกินไป ลูกค้าก็จะไปหาซื้อจากร้านที่ให้ราคาที่ถูกกว่าค่ะ
-กำไรน้อย
ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว เพราะว่าขายแบบดรอปชิปมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ใคร ๆ ก็ทำมาทำ Dropship ได้ จึงทำให้พ่อแม่ค้าแข่งกันกดราคาเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาช้อปที่ร้านของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าลูกค้าก็จะชอบเลือกซื้อสินค้าจากที่ให้ข้อเสนอที่ดี และรู้สึกคุ้มค่ากว่าอยู่แล้ว
-ไม่รู้จำนวนสต๊อกที่แท้จริง
ถ้าเป็นการขายสินค้าออนไลน์แบบปกติทั่วไป แม่ค้าออนไลน์จะจัดการสต๊อกสินค้าเอง จะรู้ว่าสินค้ามีอะไรบ้าง เหลือสินค้าในสต๊อกเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นขายของดรอปชิป แม่ค้าออนไลน์จะไม่สามารถรู้ได้ทันทีว่าสินค้าอยู่ในสต๊อกเท่าไหร่ ทำให้ร้านค้าที่ขายแบบดรอปชิป จะต้องคอยอัปเดตสินค้ากับทางเจ้าของสินค้า (Suppliers) และหน้าร้านออนไลน์ของเราอยู่ตลอดเวลา

สล็อตออนไลน์

-การจัดส่งที่ยุ่งยาก
ร้านค้าออนไลน์ที่ขายแบบดรอปชิป ส่วนมากจะรับสินค้ามาจากหลายแหล่งค่ะ ปัญหาที่ต้องเจอคือ วิธีคิดค่าจัดส่งให้กับลูกค้า สมมติว่าลูกค้า 1 คน สั่งเสื้อ 2 ตัว จากร้านของเรา แต่เสื้อทั้ง 2 ตัวมาจากคนละที่ การคิดค่าส่งจึงมีความยุ่งยากขึ้นค่ะ ร้านค้าส่วนมากจึงแก้ปัญหาด้วยการตั้งราคาสินค้าที่รวมค่าจัดส่ง หรือ คิดค่าส่งสินค้าเป็นราคาเดียวมาตรฐานไปเลย ซึ่งเป็นราคาที่ครอบคลุมสินค้าทุกขนาดและน้ำหนักค่ะ
ปัญหาจากฝั่งต้นทางของสินค้าหรือ Supplier
ปัญหาที่เกิดขึ้นจากฝั่งต้นทางสินค้า เป็นสิ่งที่ร้านค้าแบบดรอปชิปไม่สามารถควบคุมได้ สิ่งที่ทำได้คือร้านค้าต้องน้อมรับคำตำหนิจากลูกค้าไปเต็ม ๆ รวมถึงจะต้องรับผิดชอบลูกค้าสำหรับปัญหาการสั่งซื้อและจัดส่งที่อาจเกิดขึ้นได้

เคล็ดลับขายของออนไลน์แบบดรอปชิป (DROPSHIP) ทำอย่างไร ให้ขายดี
1.ศึกษาตลาดสินค้าที่จะขาย
สิ่งแรกต้องทำก่อนจะเริ่มตัดสินใจขายของแบบดรอปชิป เราต้องเรียนรู้การแข่งขันของสินค้าชิ้นนั้น ๆ ก่อนค่ะ เช่น ขายที่ไหน ส่วนใหญ่ขายบนแพล็ตฟอร์มโซเชียลอะไรบ้าง ราคาเมื่อเทียบกับคู่แข่ง จนไปถึงคอมเมนต์หรือรีวิวจากผู้ซื้อ โอกาสในการขายได้มีมากน้อยแค่ไหน คุ้มหรือเปล่า? เพราะถ้าเราเลือกสินค้ามาขายไม่ดี ต่อให้เราทำการตลาดดีแค่ไหนยังไงก็ขายได้ยากค่ะ

jumboslot

2.ศึกษาจากคู่แข่ง
อันนี้ถือว่าเป็นเคล็ดลับขั้นพื้นฐานของการทำธุรกิจแบบทุกรูปแบบค่ะ ขายของแบบดรอปชิปก็เช่นกัน เพราะสิ่งที่ทำให้สินค้าหรือผลิตภภัฑ์ที่ความโดดเด่น และน่าสนใจ คือการพรีเซนต์สินค้า ดังนั้น ถ้าเราขายสินค้าที่มีคู่แข่งขายเหมือนกับกับเรา แม่ค้าออนไลน์มีความจำเป็นต้องศึกษาวิธีการขายรวมถึงการตลาดจากคู่แข่งเพื่อนำมาปรับใช้ให้เหนือกว่าค่ะ
3.เช็คให้ชัวร์ว่าแบรนด์หรือเจ้าของสินค้าสามารถผลิตสินค้าได้เพียงพอแค่ไหน?
ถือว่าเป็นการประเมินสถานการณ์ให้ดีที่สุดไว้ก่อนนะคะ ว่าแบรนด์ที่เราจะทำดรอปชิปด้วย เขามีการบริหารจัดการที่ดี มีสต๊อกสินค้าเพียงพอต่อความต้องการที่จะขายหรือเปล่า

ยกตัวอย่างเช่น สมมติเราโปรโมทสินค้า และลงโฆษณาบน Facebook เสียค่ายิงแอดหลักร้อย ซึ่งช่วงแรกขายดี ส่งของทัน จึงขยับค่าโฆษณาขึ้น สุดท้ายเจ้าของสินค้าที่เราติดต่อทำ Dropship ด้วยมาบอกว่าผลิตสินค้าให้ไม่ทัน สินค้าไม่พอ เพราะต้องส่งสินค้าให้ร้านค้าที่ทำ Dropship รายอื่นด้วย ตรงนี้อาจทำให้เราขาดทุนในเรื่องของการทำโฆษณา เสียโอกาสทางการขาย และเสียลูกค้าไปเลย
4.ลองแอบทดสอบกับสินค้าชิ้นหรือแบรนด์นั้นก่อนขายจริง
ถ้าแม่ค้าออนไลน์ตัดสินใจที่จะขายแบบ Dropship แล้วจริง ๆ พิมเพลินขอแนะนำให้ลองสั่งสินค้ากับแบรนด์หรือเจ้าของสินค้ามาดูก่อนค่ะ เป็นชิ้นที่ถูกที่สุดก็ได้ เพื่อเป็นการทดสอบความถูกต้อง สภาพสินค้า ระยะเวลาการจัดส่ง จากนั้นจดบันทึกความคิดเห็นหรือปัญหาที่เจอ เพื่อเก็บไว้ช่วยติดตามสินค้าให้กับลูกค้าในอนาคตค่ะ วิธีนี้จะช่วยให้ลูกค้าเห็นถึงความใส่ใจในการให้บริการค่ะ

slot

5.ตั้งราคาสินค้าตามมาตรฐาน
การตั้งราคาสินค้าที่สูงจนเกินไป อาจจะไม่เหมาะกับการขายแบบดรอปชิปนะคะ เพราะเราไม่มีสินค้าจริงให้ลูกค้าได้ดู และมีโอกาสสูงที่ลูกค้าจะไปซื้อสินค้าจากร้านอื่นได้ง่าย ๆ แต่ถ้าตั้งราคาที่ต่ำเกินไป แม่ค้าออนไลน์เองก็ได้กำไรนิดเดียวจนทำให้รู้สึกว่าไม่คุ้มที่ขายค่ะ ฉะนั้น แนะว่าควรตั้งราคาตามมาตรฐานของท้องตลาดจะดีที่สุดค่ะ

ว่าที่แม่ค้าออนไลน์คนไหนที่กำลังสนใจอยากขายสินค้า แต่ไม่อยากลงทุนเยอะ ไม่อยากสต๊อกสินค้า การขายของออนไลน์แบบ Dropship ก็เป็นรูปแบบการขายที่น่าสนใจค่ะ เพราะสามารถขายสินค้าได้หลากหลายตามความสนใจ ชอบสินค้าแบบไหนติดต่อร้านที่เป็นเจ้าของสินค้าที่สนใจไปได้เลย เพียงแค่เราต้องไม่ลืมที่จะศึกษาข้อมูล รู้จักการดีลกับร้านค้า ที่สำคัญก็คือต้องมีความตั้งใจและความทุ่มเทในการทำธุรกิจออนไลน์รูปแบบนี้ค่ะ ยังไงก็ประสบความสำเร็จแน่นอนค่ะ

แต่อย่างไรก็ตาม! ขายของออนไลน์หลายช่องทาง อย่าลืมมองหาตัวช่วยดี ๆ ไว้คอยช่วยจัดการรวมแชทจากทุกโซเชียลอย่าง Page365 นะคะ จัดการง่าย ไม่ต้องคอยสลับแอปฯ ^^ การลงทุนต้องมีความรู้ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อผลประโยนช์ของนักลงทุนเอง

8 แหล่งเรียนขายของออนไลน์ ศึกษาเองได้ง่าย ๆ ขายของได้ชัวร์ ๆ

ขายของออนไลน์ ใคร ๆ ก็ทำได้เพียงแต่มีสินค้าและอินเทอร์เน็ต แต่ก็ใช่ว่าจะขายได้ขายดีกันทุกคนใช่มั๊ยละคะ? เราจึงเห็นคำถามมากมายว่า อยากขายดีต้องเรียนมั๊ย? มีคอร์สเรียนขายของออนไลน์มั๊ย?, ที่ไหนสอนขายของออนไลน์บ้าง?, เรียนขายของออนไลน์ที่ไหนดี?

วันนี้พิมเพลินคัดมาให้แล้ว!! กับแหล่งเรียนขายของออนไลน์ ทั้งแบบคอร์สสอน และศึกษาเอง ให้แม่ค้าทั้งมือใหม่ มือโปร สามารถเข้าไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมไว้พัฒนาธุรกิจของคุณกัน รับรองเลยว่าเรียนแล้วช่วยเติมเต็มเรื่องขายของออนไลน์แน่นอน!!

jumbo jili

1.PAGE365 BLOG
Page365 นอกจากจะเป็นระบบหลังบ้านช่วยจัดการร้านค้าออนไลน์แล้ว เรายังมี Page365 Town Blog ที่รวบรวมบทความเกี่ยวกับการขายของออนไลน์เอาไว้ให้พ่อค้า – แม่ค้าออนไลน์โดยเฉพาะ ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึง Tips&Trick เทคนิคการขาย รวมไปจนถึงข่าวสารในแวดวงธุรกิจออนไลน์มาคอยอัปเดตให้พ่อค้า – แม่ค้าออนไลน์ได้ศึกษาข้อมูลและนำไปใช้กับธุรกิจร้านค้าของคุณแบบฟรี ๆ ไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ

  1. COACH SONIC (โค้ชโซนิค)
    Page365-9แหล่งเรียนขายของออนไลน์-โค้ชโซนิค.png
    อยากเรียนขายของออนไลน์ การทำการตลาดออนไลน์กับโค้ชที่มีประสบการณ์ขายของออนไลน์ตัวจริง และเข้าใจแบบง่าย ๆ พิมเพลินขอแนะนำให้คุณแม่ค้ารู้จักกับ “โค้ชโซนิค” ที่มีผู้ติดตามบน Facebook Page กว่า 13,000 คน และผู้ติดตามบน Youtube กว่า 20,000 คนค่ะ ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปศึกษากันได้เลยแบบฟรี ๆ ที่ชาแนลของโค้ชโซนิคได้เลยค่ะ

สล็อต

  1. วรัทภพ รชตนามวงษ์ WARATTAPOB
    พ่อค้า – แม่ค้าออนไลน์ท่านใดที่อยากเรียนรู้เทคนิควิธีขายของออนไลน์ด้วยตัวเองแบบฟรี ๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ยิ่งโดยเฉพาะขายของแบบ Dropship, Pre-order, วิธีขายของใน Shopee, Lazada หรือการนำเข้าสินค้าจากจีนมาขาย พิมเพลินแนะนำให้รู้จักกับช่อง Youtube ของ “คุณวรัทภพ รชตนามวงษ์ (WARATTAPOB)” ผู้ที่คร่ำหวอดวงการธุรกิจไทย – จีน กว่า 14 ธุรกิจ มีผู้ติดตามกว่า 5 แสนคน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีหนังสือ “เงินมาง่าย ๆ ด้วยวิธีการขายของออนไลน์ สูตรลับ WAR-KETING” ให้อ่านกันฟรี ๆ ด้วยนะคะ พ่อค้า – แม่ค้าท่านใดที่อยากได้ทริคเทคนิคความรู้ดี ๆ ด้านธุรกิจออนไลน์แบบจัดเต็ม ช่อง Youtube ของคุณวรัทภพ ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางเรียนขายของออนไลน์ที่น่าสนใจค่ะ
  2. DBD ACADEMY
    ว่าที่พ่อค้า – แม่ค้าท่านใดที่อยากได้คอร์สเรียนขายของออนไลน์แบบฟรี ๆ แถมได้ใบ Certificate สามารถสมัครเรียนออนไลน์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ได้เลย เพราะเขามีตั้งแต่หลักสูตรการตลาด การทำธุรกิจออนไลน์ขั้นพื้นฐาน การบริการร้านค้าผ่านโซเชียลมีเดีย การจัดการร้านค้าออนไลน์ และหลักสูตรสำหรับคนอยากขายของออนไลน์อีกเพียบ!

สล็อตออนไลน์

  1. UPPERCLAZZ
    Upperclazz คือศูนย์รวมการเรียนด้านการขาย และการตลาดแบบออนไลน์ ที่เจ้าของกิจการสามารถลงคอร์สการเรียนขายของออนไลน์ได้ตามสะดวก เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา ที่สำคัญคือการสอนขายของออนไลน์ของที่นี่จะเน้นการสอนที่สนุกสนาน เข้าใจง่าย และสามารถนำไปใช้ได้จริง เรียนรู้ด้านการตลาดออนไลน์กับทีม Digital Agency ที่สั่งสมประสบการณ์มากกว่า 7 ปี มีให้เลือกเรียนถึง 6 คลาสด้วยกัน ได้แก่ Bussinss, Content, Graphic, IT & Development, Marketing และ Online media ค่ะ
  2. SKILLLANE
    Skilllane เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์สอนออนไลน์ที่มีคลาสเรียนออนไลน์รวมอยู่ที่นี่ อยากเรียนอะไร ที่นี่มีเพียบ! รวมไปถึงคอร์สเรียนสอนขายของออนไลน์ที่มีให้เลือกกว่า 400 คอร์ส พร้อมด้วยอาจารย์ผู้เชียวชาญกว่า 150 ท่าน แถมเรายังสามารถเรียนได้แบบออนไลน์เมื่อไหร่ก็ได้ เจ้าของกิจการที่ไม่ค่อยมีเวลา ไม่สะดวกเรียนแบบห้องเรียน Skilllane ถือว่าตอบโจทย์เช่นกันค่ะ

jumboslot

  1. SKILLSHOP
    คราวนี้ย้ายฝั่งมาเรียนหลักสูตรการตลาดออนไลน์ฟรีจาก Google กันค่ะ แถมเรียนขายของออนไลน์และทำแบบทดสอบผ่านก็มีใบรับรองแต่ละคอร์สให้ด้วยนะคะ ซึ่งแต่ละหลักสูตรล้วนเป็นการสอนใช้เครื่องมือนำไปใช้ทำการตลาดออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น คอร์สเรียน Google Ads ที่จะมาสอนทำ Ads โฆษณาบน Google ให้มีประสิทธิภาพ หรือคอร์ส Google Analytics สอนเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลของกลุ่มลูกค้าหรือเทรนด์ความสนใจปัจจุบัน เพื่อนำไปวางกลยุทธ์ทางการตลาดให้กับร้านค้าของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
  2. TAOKAEMAI
    เว็บไซต์ Taokaemai เป็นศูนย์กลางแห่งการแลกเปลี่ยนความรู้ของเหล่าพ่อค้า – แม่ค้าออนไลน์ ทั้งยังเป็นแหล่งขุมทรัพย์ความรู้ เทคนิค และเคล็ดลับการทำธุรกิจออนไลน์ของ SME ให้พ่อค้า – แม่ค้าออนไลน์ได้อ่านใน Blog แบบฟรี ๆ ทั้งเทคนิคการขายของออนไลน์ เทรนด์เกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ การบริหารจัดการร้าน ไปจนถึงเรื่องของภาษี เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมความรู้ดีๆ สำหรับคนอยากเริ่มขายของออนไลน์จริงๆ ค่ะ

slot

และนี่ก็คือแหล่งเรียนขายของออนไลน์ที่คุณพ่อค้า – แม่ค้าออนไลน์สามารถเข้าไปเรียนได้เองแบบทุกที่ทุกเวลาค่ะ เรียนขายของออนไลน์ ได้ทริปและเทคนิคการขายมาต่อยอดธุรกิจของเราให้ยอดพุ่งทะลุเพดานแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ลืมกันไม่ได้นั่นคือความใส่ในของด้านบริการกับลูกค้าและมีเครื่องมือที่ช่วยจัดการร้านค้าให้เป็นระบบยิ่งขึ้นนะคะ Page365 ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ ครอบคลุมครบทุกฟังก์ชัน อาทิ รวบรวมแชทจากทุกโซเชียล เปิดบิลออนไลน์ได้ทันทีระหว่างแชท จัดการสต๊อกสินค้า ระบบพิมพ์ใบจ่าหน้าพัสดุ จนถึงขั้นตอนจัดส่ง เพื่อที่คุณจะได้ขายของออนไลน์และปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว! ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุน

Chatbot ตัวช่วยตอบแชทลูกค้า ที่คนขายของออนไลน์ต้องมี

ในยุคนี้ใคร ๆ ก็ขายของออนไลน์ใช่มั๊ยล่ะคะ และแน่นอนว่านอกจากมีสินค้ามาขายแล้ว พ่อค้า – แม่ค้าออนไลน์ก็ยังต้องสื่อสารพูดคุยกับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ยิ่งตอนนี้ธุรกิจออนไลน์มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าคนไทยที่ “ชอบแชทก่อนช้อป” ร้านค้าตอบข้อความช้านิดเดียว ก็สามารถทำให้เราเสียลูกค้าและยอดขายไปได้เช่นเดียวกัน “แชทบอท (Chatbot)” จึงกลายเป็นผู้ช่วยขายของให้กับร้านค้าออนไลน์ โดยเฉพาะร้านค้าบนโซเชียลที่พ่อค้า – แม่ค้าต่าง (ต้อง) ให้ความสนใจ
วันนี้พิมเพลินเลยพาคุณมาทำความรู้จักกับ “CHATBOT” ตัวช่วยตอบข้อความ – ขายสินค้าบนโซเชียลที่คนขายของออนไลน์ต้องมี พร้อมรวมผู้ให้บริการ CHATBOT ที่น่าสนใจมาไว้ในบทความนี้ค่ะ

jumbo jili

CHATBOT คืออะไร?
Chatbot (แชทบอท) หรือ Auto-reply คือ ระบบตอบแชทข้อความ ตอบคอมเมนต์ให้อัตโนมัติในแอปฯ และแพล็ตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, LINE OA และ Instagram คอยทำหน้าที่ตอบแชท ตอบคำถามให้ลูกค้าอัตโนมัติ โดยปกติจะถูกนำมาใช้ช่วยลดการตอบคำถามซ้ำ ๆ ลดปัญหาการตอบลูกค้าไม่ทัน แถมลูกค้าเองก็เหมือนได้คุยกับร้านค้าแบบ Real Time ด้วยค่ะ

แล้ว CHATBOT มีประโยชน์กับร้านค้าออนไลน์ยังไง?
1.Chatbot พร้อมช่วยทำงาน ตอบลูกค้าได้ตลอดเวลา
เดี๋ยวนี้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและค้นหาสินค้าที่ต้องการได้ตลอดเวลา 24 ชม. ยิ่งในช่วงเวลาดึก ๆ ลูกค้ามักจะชอบทักเข้ามาสอบถามบ่อย ๆ หรือทักเข้ามาในช่วงวันหยุด ร้านปิด แล้วไม่มีการตอบรับจากร้านค้า โอกาสเสียลูกค้าให้กับคู่แข่งจึงมีสูงมากกก การให้แชทบอทเข้ามาช่วยทำหน้าที่ตอบลูกค้าแบบเบื้องต้น หรือตั้งเวลาการทำงานเอาไว้ ก็จะช่วยให้เหมือนเราเปิดร้านอยู่ตลอด 24 ชม. มีการแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าทราบตลอดเวลาแล้วค่ะ

สล็อต

  1. ประหยัดเวลาในการตอบโต้กับลูกค้า
    ขายของออนไลน์ในแต่ละวันมักจะมีลูกค้าไปมาหาสู่สอบถามข้อมูลสินค้าเป็นจำนวนมาก และมักจะเป็นคำถามซ้ำ ๆ เดิม ๆ ใช่มั๊ยละคะ นี่ก็ถือว่าเป็นข้อดีอีกหนึ่งข้อของเจ้า Chatbot ค่ะที่เข้ามาช่วยตอบคำถามพื้นฐานในกรณีที่ลูกค้าถามคำถามซ้ำ ๆ ประหยัดเวลาการตอบคำถามไปได้เยอะ
  2. ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะ
    นอกจากประหยัดเวลาในการตอบลูกค้า ยังประหยัดในเรื่องของค่าใช้จ่ายค่ะ เพราะการมีแชทบอทเข้ามาช่วยตอบลูกค้าจะช่วยให้เจ้าของร้านลดค่าใช้จ่าย ประหยัดต้นทุนในการจ้างแอดมินหลาย ๆ คนมาช่วยตอบลูกค้า

ถ้าอย่างนั้น..บอกมาเลยดีกว่าว่ามีบริการ CHATBOT เจ้าไหนน่าสนใจบ้าง?
ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจรบน Facebook Page , LINE OA และ Instagram มีแชทบอท (Chatbot) ช่วยตอบแชทของลูกค้าอัตโนมัติให้ร้านค้าได้ใช้อย่างฟรี ๆ

สล็อตออนไลน์

ไม่มีค่าใช้จ่าย มีระบบตั้งค่าคีย์เวิร์ด (Keyword) ที่จะช่วยเดาประโยคและคำถามที่พบบ่อย ๆ วันหยุด ปิดร้านก็สามารถกำหนดวันและเวลาให้แชทบอทแจ้งกับลูกค้าได้ ที่สำคัญร้านค้ายังสามารถปรับแต่งข้อความตอบกลับได้อิสระให้เข้ากับการใช้งาน และยังเลือกได้อีกนะคะ ว่าต้องการให้บอทส่งข้อความตอบกลับลูกค้าผ่านInbox, Comment หรือดึง Comment บนหน้าเพจ ให้ตอบกลับทาง Inbox ของลูกค้าโดยตรงค่ะ

Kaojao.com หรือ ข้าวเจ้าแชทบอท โปรแกรมแชทบอทอีกหนึ่งเจ้าของคนไทย เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยขายของบน Facebook สำหรับแม่ค้าออนไลน์ สามารถตอบข้อความตามคีย์เวิร์ด, ดึงคอมเมนต์เข้า Inbox และยังสามารถให้บอทรับชำระเงินแทนร้านค้าได้อีกด้วย โดยราคาแพ็คเกจของข้าวเจ้าแชทบอทจะเริ่มต้นที่ 590 บาท/เดือน ค่ะ

OneChat คือแชทบอท AI ออกแบบมาเพื่อการขายของผ่านแชทโดยเฉพาะ ทำหน้าที่ช่วยตอบคอมเมนต์ใต้โพสต์และคำถามใน Inbox ตลอด 24 ชม. ความเจ๋งอยู่ตรงที่มีระบบ AI วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า สามารถประมวลผลข้อมูลจากข้อความในแชท พร้อมคัดแยกให้ตามกลุ่มเป้าหมายให้ด้วย ราคาแพ็คเกจเริ่มต้นอยู่ที่ 900 บาท/เดือน

jumboslot

Zwiz (ซีวิซ) คือระบบ AI Chatbot ตอบแชทลูกค้าอัตโนมัติอีกหนึ่งเจ้าที่น่าสนใจ ใช้ได้ทั้งบน Facebook Page และ LINE OA ที่มีแพ็คเก็จพื้นฐานให้ทดลองใช้แบบฟรี ๆ จุดเด่นอยู่ตรงที่ใช้ระบบ AI บอทมีการเรียนรู้พฤติกรรมต่าง ๆ เช่น บอทสามารถเรียนรู้การสะกดคำผิด โดยที่ไม่ต้องเช็คกับ Keyword ปรับแต่งคำถาม-คำตอบได้ไม่จำกัด และสามารถทำงานร่วมกับเพจแอดมินได้อีกด้วยค่ะ

MANYCHAT
เครื่องมือแชทบอทที่แม้จะเป็นของต่างชาติ แต่ก็มีหลายร้านค้าในไทยที่ใช้ระบบนี้ เพราะนอกจากจะฟรีแล้ว ฟีเจอร์ของ ManaChat ยังสามารถปรับแต่งการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ใช่แค่ตอบแชทลูกค้าบน Facebook Page แค่นั้น แต่ยังสามารถออกแบบข้อความ หรือการมีปฏิสัมพันธ์ต่างๆ กับลูกค้าได้หลากหลาย และยังสามารถเช็คปฏิกิริยาของลูกค้าในการตอบสนองกลับมาได้อีกด้วย

slot

เป็นไงยังบ้างคะ กับข้อมูล Chatbot ที่พิมเพลินรวบรวมข้อมูลและผู้ให้บริการแชทบอท นำมาแบ่งปันให้พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ได้ทำความรู้จักและเลือกใช้บริการช่วยตอบแชทลูกค้าบนเพจร้านกัน ซึ่งแต่ละเจ้าก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้น! ลองศึกษาข้อมูลกันดูก่อนนะ แล้วค่อยเลือกบริการแชทบอทที่เหมาะสมกับการใช้งานของเราก็ยังไม่สายค่ะ

สำหรับแม่ค้าออนไลน์ที่ขายสินค้าอยู่บนหลายแพลตฟอร์มโซเชียล ที่มองหาระบบฟีเจอร์แชทบอทช่วยตอบลูกค้าอันโนมัติ และยังอยากได้ระบบที่คอยจัดการหลังร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจรในที่เดียวตั้งแต่รวมแชทจากทุกโซเชียล ช่วยจัดการออเดอร์ อยู่ในระบบเดียวกัน Page365 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะคอยช่วยแชท ช่วยขาย ให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณปิดยอดขายได้เร็วยิ่งขึ้นค่ะ ใครๆก็ทำได้แต่ข้อมูลต้องแน่น ศึกษาเพิ่มเติมด้วยครับ

รู้จักสวนน้ำญี่ปุ่น สวัสดิการดีๆของแม่และเด็ก

ฤดูร้อนของญี่ปุ่นก็ได้ผ่านไปแล้ว แม่บ้านเมกุโระขอแชร์ประสบการณ์ฤดูร้อนนี้กับลูกชายมาฝากทุกคนนะคะ มาดูกันว่าญี่ปุ่นมีสวนน้ำที่ฟรีและดีอยู่ทุกเมืองได้ยังไง

จาบูจาบูอิเคะ ??
เมื่อพูดถึงหน้าร้อน ก็ต้องเล่นน้ำใช่มั้ยคะ ญี่ปุ่นเองก็มีสระว่ายน้ำประจำเมืองมากมาย แต่สระว่ายน้ำที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบลงเล่นน้ำในสระผู้ใหญ่ค่ะ นอกจากจะเป็นสระที่ทำสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งเอาเข้าจริงก็หาค่อนข้างยาก ไม่ได้มีทุกที่ แม้แต่ในโตเกียวก็มีไม่เยอะเท่าที่ควร สระที่เรียกว่า “จาบูจาบูอิเคะ” จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ ได้พาไปเล่นสร้างเสริมทักษะและพัฒนาการเด็กในช่วงหน้าร้อนได้ดีจริง ๆ ค่ะ
จาบูจาบูอิเคะ มาจากคำว่า
• จาบูจาบู (じゃぶじゃぶ หรือ ジャブジャブ) ที่เป็นเสียงน้ำกระเด็นมาจากการเล่นน้ำ
• อิเคะ (池) ที่แปลว่าบ่อน้ำค่ะ
จึงรวมกันเป็นบ่อน้ำสำหรับเล่นน้ำนั่นเองค่ะ

jumbo jili

จากในภาพ จาบูจาบูอิเคะมักจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่เหมือนกึ่งกลางระหว่างสระว่ายน้ำและแม่น้ำจำลองค่ะ มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ส่วนใหญ่จะเป็นบ่อน้ำที่มีน้ำไหลผ่านเป็นชั้น ๆ ความสูงของน้ำตั้งแต่ตาตุ่มจนถึงเอวของเด็กค่ะ เพื่อที่เด็กเล็กจะเล่นได้ไม่จม จะพูดให้เข้าใจง่าย ๆ นี่คือบ่อน้ำสำหรับเด็กเล็กๆที่ยังว่ายน้ำไม่เป็นนั่นเอง
สระแบบนี้จะมีอยู่ในทุกเมือง เพราะทางองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นทำไว้นั่นเองค่ะ เหมือนเป็นสวัสดิการให้ประชาชน ที่สำคัญไม่เสียค่าเข้าด้วยนะคะ

จาบูจาบูอิเคะมีที่ไหนบ้าง?
จาบูจาบูอิเคะก็เหมือนกับโรงยิมออกกำลัง สวนสาธารณะ หรือสวนเด็กเล่น ที่ญี่ปุ่นจะมีคนบริหารดูแลและใช้งบประมาณโดยองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เช่นตำบลหรืออำเภอ ที่มีรายได้ผสมจากงบประมาณกลางจากรัฐบาลและภาษีผู้อยู่อาศัยจากคนที่อาศัยอยู่ในเมืองค่ะ สวนน้ำแบบนี้มักจะอยู่ในสวนสาธารณะ หรืออาจจะตั้งโดดๆ ในพื้นที่ๆเป็นของรัฐบาลท้องถิ่น สามารถเล่นได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะในประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นสวัสดิการพื้นฐานที่ประชาชนควรมีค่ะ
จาบูจาบูอิเคะมีหลากหลายรูปแบบมากดีไซน์และการออกแบบไม่ซ้ำกันเลยค่ะ เราได้ลองไปมาหลายๆที่เลยเจอมาหลายแบบ ตัวอย่างเช่น

สล็อต

• ที่ Komazawa Olympic Park จะเป็นรูปแบบสระน้ำที่ลดหลั่นระดับกันลงมา มีน้ำพุขนาดใหญ่ 2 จุด ใครบ้านอยู่แถวนี้สนุกเลย
• ที่ Shinjuku Chuo Park เป็นขั้นบันไดให้เด็กปีนป่าย มีน้ำตกขนาดยาวให้เด็กได้เล่น
• ที่ Renshi no Mori Park เป็นสไตล์แม่น้ำและป่า ใช้ก้อนหินเรียงกันทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ บ่อปลายสุดเหมือน Lazy Pool มีการให้เด็กใส่ห่วงยางลอยเท้งเต้งกันอย่างสนุกสนาน ส่วนปลายบ่ออีกด้านมีปืนฉีดน้ำขนาดยักษ์และหน้าผาให้โตขึ้นมาหน่อยได้ปีนป่าย

นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่เอามาให้ดูกันค่ะว่าดีไซน์และความครีเอทขึ้นอยู่กับแต่ละท้องถิ่นเลย เพราะมีงบเลยสามารถดีไซน์กันได้เต็มที่ ภาครัฐทำได้ดีไม่ต่างจากเอกชนเลยค่ะ
แถวบ้านของแม่บ้านเมกุโระก็มีจาบูจาบูอิเคะ 2 ที่ในรัศมีรอบบ้าน 2 กิโลเมตร ขี่จักรยานไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้วค่ะ เล่นไปหยุดพักกินของว่างไปแล้วกลับไปเล่นน้ำใหม่ กลับบ้านสลบเหมือดทั้งแม่และลูก

สล็อตออนไลน์

กฎและข้อปฏิบัติ
เช่นเดียวกับสระว่ายน้ำหรือสนามกีฬาที่คนใช้ร่วมกัน กฎและข้อบังคับต้องมี โดยยจะขึ้นอยู่กับจาบูจาบูอิเคะแต่ละที่ ไม่ได้บังคับตายตัว แต่หลักใหญ่เป็นข้อปฏิบัติที่จำเป็นต้องทำอย่างเครื่องแต่งกาย และสิ่งที่ต้องปฏิบัติเพื่อให้เกิดความระเบียบเรียบร้อยและความปลอดภัยในการใช้พื้นที่ร่วมกัน เช่น

• กฎเกี่ยวกับเครื่องแต่งกาย เช่น บางที่ต้องสวมกางเกงว่ายน้ำเท่านั้น บางที่เด็กสวมผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเล่นน้ำได้ บางที่แนะนำให้ใส่รองเท้าสำหรับใส่ในน้ำกันเด็กลื่น
• กฎเกี่ยวกับอุปกรณ์การเล่น บางที่สามารถนำอุปกรณ์เล่นน้ำอย่างห่วงยางหรือปืนฉีดน้ำมาเล่นด้วยได้ บางที่ก็ห้าม
• กฎเกี่ยวกับความปลอดภัย เช่น ห้ามดื่มน้ำในบ่อ ห้ามวิ่งบริเวณบ่อเพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ หรือเมื่อผู้ดูแลเตือนต้องรับฟังและปฏิบัติตาม
• กฎเพื่อรักษาความสะอาดและสภาพแวดล้อมโดยรวม เช่น ล้างตัวและล้างเท้าก่อนเข้าบ่อทุกครั้ง ห้ามทานอาหารในบริเวณบ่อน้ำ ห้ามนำสุนัขเข้า ห้ามทิ้งขยะ ถอดรองเท้าบริเวณรอบ

jumboslot

นอกเท่านั้น ห้ามใส่เข้าไปในบริเวณรอบบ่อน้ำ
ดังนั้นก่อนที่จะเข้าไปเล่นควรศึกษากฎและข้อบังคับบนป้ายที่ติดไว้ให้ดีนะคะ ไม่อย่างนั้นจะโดนผู้ดูแลเข้าไปตักเตือนเอานะคะ แม่บ้านเมกุโระโดนบ่อย อายแทบแย่เลยค่ะ

วันและเวลาที่เปิดให้บริการ
จาบูจาบูอิเคะจะเปิดให้บริการในช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่นเท่านั้นค่ะ เพราะเป็นบ่อน้ำกลางแจ้ง ทำให้ไม่เหมาะกับการเปิดในฤดูอื่น ๆ เพราะน้ำจะเย็นเกินไป ส่วนหน้าร้อนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเล่นน้ำ ซึ่งจะช่วยให้เด็กรู้สึกสดชื่น และเด็กส่วนใหญ่ก็ชอบเล่นน้ำค่ะ แต่ควรระมัดระวังในการเล่นกลางแดดเป็นเวลานานนะคะ เพราะอาจจะทำให้เด็กเป็นลมแดดและอาจจะจมน้ำได้ค่ะ

วันที่ที่เริ่มเปิดให้บริการแต่ละปีขึ้นอยู่กับแต่ละที่ค่ะ เกือบทุกที่วันและเวลาที่เปิดปิดแทบจะไม่เหมือนกันเลย โดยสามารถเช็ควันและเวลาที่เปิดปิดได้บนเว็บไซต์หรือสามารถดูบนป้ายที่จายูจาบูอิเคะว่าปีนี้จะเริ่มเปิดให้เข้าไปเล่นได้ตั้งแต่วันที่เท่าไหร่จนถึงวันที่เท่าไหร่ เวลาเปิดปิดวันธรรมดามักจะแตกต่างจากวันหยุดด้วยค่ะ โดยวันหยุดมักจะเปิดเร็วกว่าวันธรรมดา และทุกที่จะหยุดในวันที่ฝนตกนะคะ

slot

กิจกรรมหน้าร้อนของเด็กวัย 1-3 ขวบนอกจากจะมีจาบูจาบูอิเคะแล้ว สวนเด็กเล่นก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กันค่ะ อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่าจาบูจาบูอิเคะมักจะตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ ดังนั้นบริเวณใกล้จึงมักจะมีสวนเด็กเล่น ห้องน้ำ และพื้นที่ให้เด็กวิ่งเล่น จับแมลง เล่นบ่อทราย จบครบในที่เดียวเลยค่ะ เป็นสวัสดิการของรัฐที่ไม่ต้องเสียเงินค่าบริการสักบาท ครอบครัวที่มีลูกเล็กที่มาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงหน้าร้อนก็อย่าลืมมาลองจาบูจาบูอิเคะที่ญี่ปุ่นดูนะคะ

ส่วนตัวนั้นอยากให้ประเทศไทยมีสวัสดิการ ที่คล้ายๆกับ จาบูจาบูอิเคะบ้าง เพราะประเทศเป็นเมืองร้อน เหมาะมากที่จะมีบ่อน้ำใต้เงาต้นไม้ร่มรื่นให้เด็กๆ ได้มาเล่นกันดับร้อน และได้ออกมาเล่นข้างนอกแทนการเล่นเครื่องเล่นอยู่ภายในห้าง (อย่างคนกรุงเทพนี่ดูที่เล่นเด็กไม่หลากหลายเลย) ที่สำคัญการทำบ่อแบบจาบูจาบูอิเคะในไทยนั้นดูคุ้มค่ามาก เพราะเด็กๆจะสามารถเล่นได้ทั้งปี ไม่เหมือนประเทศญี่ปุ่นที่เปิดได้แค่หน้าร้อน ซึ่งไม่เกิน 3-4 เดือนต่อปี อยากฝากฝังหน่วยงานราชการไทยเอาไปคิดเพื่ออนาคตของเด็กไทยทุกคนด้วยนะคะ
คนญี่ปุ่นชอบการท่องเที่ยวและการกินมาก

วิธีไปดูซูโม่ที่ญี่ปุ่นวิธีไปดูซูโม่ที่ญี่ปุ่น

แนะนำวิธีการไปดูซูโม่ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การจองตั๋ว เวลาแข่ง สถานที่แข่ง ที่นั่ง มารยาท กิจกรรมที่น่าสนใจในสนามซูโม่ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับซูโม่ บรรยากาศรอบสนามซูโม่และสิ่งที่น่าทำในวันที่ไปดูซูโม่

ซูโม่คืออะไร
“ซูโม่” คือหนึ่งในกีฬาญี่ปุ่นแท้ๆที่คนชอบอะไรญี่ปุ่นๆ ควรจะลองไปดูซักครั้ง นอกจากจะเป็นกีฬาที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,500 ปีแล้ว ยังมาพร้อมกับเอกลักษณ์มากมายที่หาชมในกีฬาอื่นไม่ได้ ตั้งแต่การแต่งกาย ทรงผม และวิถีชีวิตของนักซูโม่เองก็เป็นสิ่งน่าสนใจไม่แพ้การแข่งขัน รวมถึงพิธีกรรมก่อนและหลังแข่ง เนื่องจากซูโม่ไม่ได้เป็นแค่กีฬาที่แข่งเอาแพ้ชนะ แต่ยังมีความหมายในทางศาสนาและวัฒนธรรมอื่นๆที่แฝงมาด้วย ทำให้เป็นกีฬาที่มีประเพณีแฝงมาให้ชมเยอะพอสมควร ไม่ได้มีให้ดูแค่ผลแพ้ชนะเท่านั้น
กฏกติกามารยาทของการแข่งซูโม่นั้นจริงๆแล้วง่ายดายเอามากๆ การตัดสินแพ้ชนะกันมีกฏแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น
1 ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งล้มลงบนพื้นได้
2 ทำให้อวัยวะส่วนอื่นนอกเหนือจากเท้าแตะพื้นได้
3 ทำให้ร่างกายคู่ต่อสู้ออกจากลานแข่งขันได้

jumbo jili

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้การตัดสินแพ้ชนะของซูโม่ทำได้ในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น คนที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยดูซูโม่มาก่อนอาจมองว่าเป็นกีฬาที่ไม่มีอะไรดูเพราะจบอย่างรวดเร็ว แต่เราขอแนะนำว่าการไปดูซูโม่นั้น ไม่ได้ดูแค่ผลแพ้ชนะ แต่ไปเพื่อสัมผัสประเพณี พิธีกรรม และบรรยากาศต่างๆที่อยู่รอบๆการแข่งซูโม่ด้วย
ที่สำคัญการแข่งซูโม่ในวันหนึ่งนั้นมีหลายร้อยคู่ ทำให้สนุกได้ยาวๆ ตื่นเต้นได้ตลอดวัน อย่างคู่ที่เก่งๆนั้นก็แข่งกันได้สนุกแบบที่คุ้มค่าแม้คู่นึงจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เทคนิคต่างๆที่น่าสนใจ หากนั่งดูให้ดีก็จะเห็นว่ามีการโจมตีที่สามารถใช้ได้มากมาย ไม่ได้ใช้แค่พลังและน้ำหนักกดอีกฝ่าย แต่ยังมีการโต้กลับ การหลอกล่อ การใช้แรงของอีกฝ่ายให้เป็นประโยชน์ ทุกครั้งนักซูโม่ที่ตัวเล็กล้มนักซูโม่ที่ตัวใหญ่กว่าได้กองเชียร์ในสนามจะโห่ร้องกึกก้อง เป็นบรรยากาศที่น่าไปสัมผัสด้วยตัวเอง

ในหนึ่งวันซูโม่จะมีแข่งครบทุกระดับไล่จากระดับล่างสุดจนสูงสุด นักซูโม่แทบทุกคนจะได้มาแข่ง 1 แมตช์แน่ๆทุกวัน ยกเว้นคนที่ได้พัก โดยในแต่ละวันที่มีแข่งก็จะเริ่มแข่งตั้งแต่ประมาณแปดโมงครึ่งในยามเช้า ซึ่งเริ่มจาก Banzukegai ไล่ไปเรื่อยๆ โดยระดับล่างๆที่แข่งในตอนเช้านั้นแทบจะไม่มีคนดู ส่วนระดับที่ยิ่งสูงก็จะยิ่งมีคนเข้ามาดูมากขึ้น แฟนซูโม่ตัวจริงส่วนใหญ่จะนั่งติดเก้าอี้ตั้งแต่ประมาณบ่ายสอง (ช่วงที่ระดับ Juryo เริ่มแข่ง) ไปจนจบการแข่งของ Makuuchi ประมาณหกโมงเย็น ถ้าคุณอยากไปชมนักซูโม่เก่งๆเป็นหลักก็ไม่จำเป็นต้องมาแต่เช้าก็ได้ แต่แนะนำให้มาตั้งแต่ประมาณระดับ Juryo แข่ง

สล็อต

ซูโม่แข่งกันที่ไหนเมื่อไหร่
การแข่งขันซูโม่ในญี่ปุ่น ไม่เหมือนกับลีกกีฬาใหญ่ๆอย่างเช่นฟุตบอล ที่จะแบ่งรอบตามฤดูกาลหรือรอบเวลาของปีๆละรอบ แต่ซูโม่จะแบ่งออกเป็นรอบเล็กๆซึ่งปีนึงมีแข่งถึง 6 รอบ และหนึ่งรอบใช้เวลาแข่งแค่สิบห้าวันเท่านั้นก็รู้ว่าใครเป็นแชมป์

ทั้งหกรอบจะจัดกันคนละเวลาและคนละสถานที่ เดือนที่จัดก็คือเดือน 1, 3, 5, 7, 9, 11 โดยในหกครั้งนี้ สามครั้งแข่งที่โตเกียว และที่เหลือแบ่งกันจัดที่โอซาก้า นาโกย่า และฟุกุโอกะ เมืองละหนึ่งครั้ง
เดือน 1, 5, 9 สามครั้ง แข่งที่โตเกียว
เดือน 3 แข่งที่โอซาก้า
เดือน 7 แข่งที่นาโกย่า
เดือน 11 แข่งที่ฟุกุโอกะ
โดยการแข่งซูโม่แต่ละรอบซึ่งจะใช้เวลาสิบห้าวันนั้น ในแต่ละวันก็มักจะมีการแข่งให้ดูเป็นร้อยๆคู่โดยไล่ตั้งแต่นักซูโม่ระดับล่างสุดไปจนระดับบนสุดเลย นักซูโม่ในวงการแทบทุกคนจะมีตารางได้ลงแข่งหนึ่งแมตช์ในทุกๆวัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเลือกไปดูวันที่เท่าไหร่ก็สามารถดูนักซูโม่ดังฝีมือดีได้

สล็อตออนไลน์

สถานที่ดูซูโม่ในญี่ปุ่น
หลังจากเลือกเดือนที่จะไปชมได้แล้ว ก็ต้องเลือกสถานที่ๆจะไปให้ตรงตามที่จัด
สำหรับการแข่งขันทั้งสามรอบของโตเกียวนั้น จะแข่งที่เดียวกันทั้งหมดคือที่ Ryogoku Kokugikan
การแข่งขันที่โอซาก้าจัดขึ้นที่ Osaka Prefectural Gymnasium (Edion Arena Osaka)
การแข่งขันที่นาโกย่าจัดขึ้นที่ Aichi Prefectural Gymnasium
การแข่งขันที่ฟุกุโอกะจัดขึ้นที่ Fukuoka Kokusai Center

สนามแข่งซูโม่เรียวโกคุเป็นสถานที่แข่งซูโม่ที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในวงการซูโม่ญี่ปุ่น ทั้งในเรื่องของประวัติศาสตร์และความน่าสนใจของตัวสถานที่เอง รวมถึงสิ่งต่างๆที่มีให้ทำมากมายนอกจากการดูซูโม่
นอกจากจะเป็นสนามที่มีการแข่งขันบ่อยที่สุดแล้ว ยังเป็นเหมือนกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าคนรักซูโม่อีกด้วย เพราะประวัติศาสตร์ต่างๆเกี่ยวกับซูโม่ก็มักจะผูกอย่กับที่แห่งนี้ นอกจากนี้ รอบๆก็ยังเป็นที่รวมค่ายนักซูโม่ที่เยอะที่สุดในญี่ปุ่น ห้างร้านต่างๆมากมายที่ขายอาหารเพื่อนักซูโม่ ร้านที่ขายขนมของฝากเกี่ยวกับซูโม่ และถนนสายประวัติศาสตร์ สวนที่ระลึก หรือรูปปั้นต่างๆเกี่ยวกับฮีโร่นักซูโม่ในอดีตอีกหลายแห่ง

jumboslot

สนามแข่งซูโม่ Ryogoku Kokugikan สามารถเดินทางไปได้โดยรถไฟสาย JR Chuo-Sobu Line หรือรถไฟใต้ดินสาย Toei Oedo Line ไปลงที่สถานี Ryogoku จากสถานีเดินไปจนถึงสนามไม่ไกล และถ้าเป็นวันที่มีแข่งจะมีกิจกรรมต่างๆให้ดูมากมาย เช่นตลาดนัดเล็กๆริมถนนที่มีเอกลักษณ์ตรงธงสีสันหลากหลาย มีของกินของฝากเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับซูโม่ให้เลือกซื้อมากมาย และตามทางเดินริมถนนก็มักจะมีคนจำนวนมากมายืนรอดูนักซูโม่ เหมือนกับสื่อบันเทิงมายืนรอดูดาราเดินพรมแดงที่งานแจกรางวัลลูกโลกทองคำยังไงยังงั้น ถือว่าเป็นบรรยากาศที่หาไม่ได้ถ้าไม่มาที่สนามแห่งนี้ด้วยตัวเองซักครั้ง
อธิบายอย่างสั้นๆและจำง่ายที่สุดก็คือ เช้าคนน้อย บ่ายคนเยอะ ถ้าอยากเดินรอบๆสนามเพื่อถ่ายรูป ให้รีบไปเช้าๆ แต่ถ้าอยากเชียร์นักซูโม่เก่งๆ ดังๆ ระดับสูงๆ ให้ไปตอนบ่าย

ตั๋วซูโม่หนึ่งใบนั้นสำหรับหนึ่งวัน เมื่อเราซื้อแล้วสามารถอยู่ในสนามได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น และการแข่งขันในหนึ่งวันของซูโม่นั้นจะมีจัดแข่งทุกระดับ พูดง่ายๆคือนักซูโม่แทบทุกคนจะมีตารางต้องลงแข่งยกเว้นคนที่ได้พัก โดยไล่จากระดับล่างสุดในตอนเช้า ไปจบที่ระดับสูงสุดในเวลาประมาณหกโมงเย็น
ถ้าใครไปดูตั้งแต่เช้าจะพบว่านักซูโม่ที่แข่งอยู่เป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มได้ไม่นาน ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าบางคนตัวยังไม่ใหญ่ด้วย เพราะว่าตอนเช้าเป็นเวลาของนักซูโม่หน้าใหม่นั่นเอง และสนามแข่งก็จะยังเต็มไปด้วยเก้าอี้ที่ว่างเพราะคนส่วนใหญ่มักเลือกจะเริ่มมาชมรอบบ่ายๆ ที่นักซูโม่ดังๆเริ่มลงแข่ง

ในภาพด้านบนถ่ายตั้งแต่เช้าประมาณ 9-10 โมง จะเห็นว่าแม้แต่ที่นั่งสีเขียวใกล้ขอบสนาม ซึ่งเป็นที่นั่งที่ดีและแพงที่สุดที่แฟนพันธ์แท้จะจองกันจนเต็มเสมอ (เรียกว่า ทามาริเซกิ) ก็ยังไม่มีคนมานั่งดู เพราะว่ารอบเช้าๆนั้นยังไม่น่าสนใจเท่ารอบบ่ายนั่นเอง

slot

มารยาทระหว่างชมซูโม่
มารยาทไม่ยาก หลักๆคือเหมือนกับการไปคอนเสิร์ตหรือการชมกีฬาอื่นๆนั่นเอง แต่จะเพิ่มเติมความเข้มงวดขึ้นมาในเรื่องของที่นั่งและการไม่รบกวนผู้อื่น

  1. สำหรับผู้คนในทุกที่นั่ง สามารถกินดื่มได้ตามปกติหากรักษาความสะอาดและไม่รบกวนที่นั่งข้างๆ
  2. ไม่ควรยืนขึ้นระหว่างการแข่งเพราะจะบังคนที่อยู่ข้างหลัง
  3. สำหรับที่นั่งชั้นดีที่สุดที่เรียกว่า ทามาริเซกิ (Ringside) เป็นที่นั่งที่ใกล้กับเวทีที่สุดและเป็นที่นั่งแบบนั่งพื้นทั้งหมด หากจะจองที่นั่งตรงนี้ต้องระวังเรื่องมารยาทของตนเองมากเป็นพิเศษด้วย แม้จะแพงกว่าแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสบายกว่า อะไรๆก็อาจจะลำบากกว่าเดิมได้ก่อนจองจึงต้องระวัง
    สิ่งที่ลำบากกว่าที่นั่งราคาถูกก็อย่างเช่น ห้ามกินอาหาร เข้าออกยากมาก ต้องถอดรองเท้า และการนั่งขัดสมาธิยาวๆก็อาจจะเมื่อยสำหรับคนที่ไม่ชิน เป็นต้น ส่วนใหญ่คนที่นั่งตรงนี้จึงเป็นคนญี่ปุ่นเท่านั้น และเราไม่แนะนำสำหรับมือใหม่
  4. ผู้นั่งทามาริเซกิแถวหน้าสุด ต้องระวังนักซูโม่ที่ตกลงจากเวทีมาด้วยตัวเอง (แต่ปกติกรรมการซึ่งนั่งอยู่ข้างหน้า จะเป็นอดีตนักซูโม่และตัวใหญ่เหมือนกัน จะคอยป้องกันให้) หลากหลายรูปแบบในญี่ปุ่น