สูตร ซุปโมจิ “โอโซนิ” อาหารปีใหม่ญี่ปุ่น

โอโซนิ กับ โมจิ
“โมจิ” (餅) เป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารปีใหม่ญี่ปุ่น ที่เรียกว่า”โอโซนิ” (お雑煮) ซุปที่มีวัตถุดิบและรสชาติคล้ายต้มจืด มีเนื้อสัตว์ ผัก และลูกชิ้น คนญี่ปุ่นรับประทานเป็นอาหารมื้อแรกของปีค่ะ

โมจิหรือเค้กข้าวญี่ปุ่น ทำมาจากข้าวเหนียว (もち米 Mochigome หรือข้าวโมจิ) ที่หุงสุกใหม่ๆ นำมาตำจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แบบที่เห็นตามงานเทศกาลจะมีคนนึงตำและอีกคนคอยพลิกข้าวเหนียวแล้วพรมน้ำทีละนิดด้วยครกไม้ขนาดใหญ่ (臼 Usu) และค้อนไม้ (杵 Kine) และวิธีการตำนี้ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Mochi-tsuki (餅搗き) ค่ะ
ประเภทอาหารที่ทำจากโมจิญี่ปุ่น
โมจิที่ตำเสร็จใหม่ๆ มีความหอมเหนียวนุ่ม อร่อยมาก สามารถทานเป็นของหวานหรือคาวได้หลากหลายเมนูค่ะ เช่น
โมจิถั่วแดงกวนต้มน้ำตาล (お汁粉 Oshiruko)
โมจิถั่วแดงต้มน้ำตาล (ぜんざい Zenzai)

jumbo jili

โมจิราดถั่วกวน (あんこもち Anko mochi)
โมจิคลุกโชยุห่อสาหร่าย (磯辺餅 Isobe mochi)
โมจิคลุกผงถั่วเหลือง (安倍川餅 Abekawa mochi)
เต้าหู้ทอดห่อโมจิ (餅巾着 Mochi kinchaku)
หรือนำไปตากแห้งเพื่อเก็บถนอมไว้ทำอาหารประเภทอื่นได้ค่ะ อย่างข้าวเกรียบญี่ปุ่นเซมเบ้ (煎餅 Senbei) ก็ทำมาจากโมจิตากแห้งค่ะ

วัฒนธรรมการกินโอโซนิในวันปีใหม่ มีมานานตั้งแต่ยุคเฮอัง (ค.ศ. 794 – 1185) ส่วนการกินโมจินั้นมีมานานกว่านั้น แรกเริ่มเป็นการกินเพื่อเฉลิมฉลองวันนักขัตฤกษ์ในโอกาสพิเศษ ไม่ใช่เฉพาะวันปีใหม่เท่านั้น ต่อมาในยุคมุโระมะชิ (ค.ศ. 1336 – 1573) มีการรับประทานโอโซนิคู่กับสาเกในงานเลี้ยงฉลองของซามุไร ในยุคนั้นข้าวเหนียวที่ใช้ทำโมจิมีราคาแพง ตามบ้านเรือนทั่วไปจึงใช้เผือกญี่ปุ่นแทน การกินโมจิกับโอโซนิของคนทั่วไปเชื่อกันว่าเริ่มในต้นยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603 – 1868) เพราะคนทั่วไปสามารถหาซื้อข้าวเหนียวมาทำโมจิได้ง่ายขึ้นค่ะ

สล็อต

ปัจจุบันโอโซนิมีส่วนผสมและวิธีทำที่แตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่นของญี่ปุ่น แต่สิ่งที่เหมือนกันคือการใส่โมจิ โมจิจะเป็นแบบตำเองก็ได้ หรือโมจิแห้งสำเร็จรูปก็หาซื้อง่ายและสะดวก ที่ญี่ปุ่นมีขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ร้านโฮมเซนเตอร์หรือแม้กระทั่งร้าน100เยนก็มีขายค่ะ (ที่ไทยเองถ้าไปตามซุปเปอร์ญี่ปุ่นก็มีขายแน่นอนค่ะ)

ในส่วนของน้ำซุปนั้นในหลายจังหวัดใช้ซุปดะชิญี่ปุ่น รองลงมาคือซุปมิโสะค่ะ อย่างในจังหวัดเกียวโต จังหวัดมิเอะ และจังหวัดนาระค่ะ สำหรับสูตรที่เราจะทำวันนี้เป็นซุปดะชิที่เป็นที่นิยมที่สุดค่ะ ลองมาทำทานกันดูค่ารับรองว่าเด็ด
ส่วนผสมและวิธีทำโอโซนิ
เครื่องปรุง

  1. น้ำเปล่า 1 ลิตร
  2. ชิโร่ดะชิ 3 ช้อนโต๊ะ
  3. โชยุ 2 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือ 1 ช้อนชา

สล็อตออนไลน์

วัตถุดิบ

  1. ลูกชิ้นปลาญี่ปุ่นสีขาวชมพู ตามชอบ
  2. ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น
  3. สะโพกไก่ 2 ขีด
  4. ผักกาดขาว 4-5 ใบ
  5. เห็ดหอม 8 ดอก
  6. แครอท 8 แว่น (แกะสลักตามชอบ)
    วิธีทำ
  7. ซอยต้นหอมญี่ปุ่นหนาบางตามชอบ
  8. หั่นผักกาดขาวเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ

jumboslot

  1. เนื้อไก่ หั่นเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ
  2. หั่นเห็ดหอมเตรียมไว้
  3. หั่นแครอทเตรียมไว้
  4. ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า ชิโร่ดะชิ โชยุ และ เกลือ ต้มให้เดือด ใส่ไก่ ตักฟองทิ้ง
  5. ใส่ผักกาดขาว แครอท ต้นหอมญี่ปุ่น และ เห็ดหอม
  6. ใส่ลูกชิ้นปลาสีขาวชมพู ชิมรส ถ้ารสอ่อนไปให้เพิ่มเกลือตามชอบ ให้ซุปออกรสเค็มนิดๆ เมื่อเรารับประทานกับโมจิจะได้รสชาติกลมกล่อมพอดี เสร็จแล้วต้มต่อจนผักสุกนิ่มพร้อมเสิร์ฟ

slot

วิธีจัดเสิร์ฟ

  1. นำโมจิไปย่างจนสุกนิ่ม โดยใช้เตาอบ เตาปิ้งขนมปัง หรือย่างตะแกรงด้วยเตาแก๊สเตาถ่านก็ได้ค่ะ ครวย่างเมื่อต้องการรับประทาน ไม่ควรย่างทิ้งไว้เพราะโมจิจะแข็งกินยากและไม่อร่อยเมื่อเวลาผ่านไปนาน
  2. ใส่โมจิที่ย่างแล้วใส่ถ้วยขนาดพอเหมาะคนละ 1-2 ชิ้น
  3. ตักน้ำซุปใส่ลงไปก็พร้อมรับประทานค่ะ
    โอโซนิกับการกินโมจิ คือ อาหารสิริมงของญี่ปุ่น กินให้อายุยืน โชคดี และมีความสุข แต่โมจิที่เหนียวและยืดนี้ก็เป็นอันตรายได้ค่ะ ควรกินแต่คำน้อยและเคี้ยวอย่างระวัง ห้ามเด็กเล็กและคนชรารับประทานนะคะ เพราะอาจติดคอได้ค่ะ เมนูของเขาน่าเอาไปลองทำ

สูตร มิโสะดามะ ซุปมิโสะก้อนเติมน้ำร้อนพร้อมทาน

ใครรักอาหารญี่ปุ่นต้องรู้จักไว้ มิโสะดามะคือซุปมิโสะก้อนแบบพกพา แค่เติมน้ำร้อนก็พร้อมรับประทาน
มิโสะดามะ
มิโสะดามะคือซุปมิโสะก้อนสำเร็จรูป มีทรงกลมที่ดูคล้ายช็อกโกแลต เป็นอาหารพร้อมทานของญี่ปุ่นที่มีมาตั้งแต่ยุคซามูไร วัตถุดิบหลักก็คือมิโสะ (ที่ใช้ทำซุปนั่นเอง) ปริมาณสำหรับ 1 ที่พอดี นำมาปั้นเป็นก้อนๆ แค่เติมน้ำร้อนก็จะได้ซุปมิโสะพร้อมรับประทาน ไม่ว่าที่ไหนหรือเมื่อไหร่ก็อิ่มอร่อยกับซุปมิโสะอุ่นๆได้ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ดีต่อสุขภาพค่ะ มีหลักฐานว่าอาหารชนิดนี้นั้นเก่าแก่และทำกินกันมาแต่โบราณ เช่นในยุคเซ็งโงกุที่ประเทศญี่ปุ่นปกครองโดยขุนพลมากมายและมีสงครามกลางเมืองต่อเนื่องยาวนาน มิโสะดามะนั้นเป็นอาหารที่ช่วยเพิ่มพลังงานแก่เหล่านักรบ ในอดีตจะนำมิโสะที่ปั้นเป็นก้อนไปเผาหรือตากแห้ง ห่อด้วยใบไผ่แห้งหรือผ้าฝ้าย ผูกไว้ที่เอวนักรบญี่ปุ่น ถือเป็นเสบียงสำคัญอย่างหนึ่งของนักรบยุคโบราณค่ะ

jumbo jili

ปัจจุบันมีการพัฒนาเป็นหลายรูปแบบ ใส่ส่วนผสมอื่นๆนอกจากมิโสะมากกมาย เช่นกุ้งแห้ง สาหร่ายแห้ง และอื่นๆ แค่เทน้ำร้อนแล้วก็จะได้ซุปมิโสะที่สวยงามและมีคุณค่าทางอาหารหลากหลาย ไม่ได้มีแต่มิโสะอย่างเดียวด้วยค่ะ ซึ่งเนื่องจากเป็นอาหารที่ค่อนข้างสวยและถ่ายรูปขึ้น จะทำเป็นของฝากของขวัญก็ได้ค่ะ มาลองทำซุปเปอร์ฟู้ดของประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ

8 ข้อดีของการทำมิโสะดามะ

  1. เพียงเติมน้ำร้อนก็พร้อมรับประทาน
  2. มีวิธีการทำที่ง่าย แค่ผสมทุกอย่างแล้วปั้นก้อน
  3. เป็นอาหารที่ปรุงเอง จึงสะอาดปลอดภัย
  4. ไม่จำกัดในเรื่องของวัตถุดิบ ดัดแปลงสูตรได้หลากหลาย
  5. ทำครั้งละมากๆ ใส่ตู้เย็นได้ 1 สัปดาห์ และเก็บได้นานถึง 1 เดือนในช่องฟรีซ
  6. พกพาสะดวก จะปิคนิคหรือใส่กล่องไปกินที่ทำงานก็ได้
  7. มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยมิโสะที่เป็นซุปเปอร์ฟู้ดของญี่ปุ่น
  8. สำหรับคนที่ทำอาหารญี่ปุ่นอยู่ประจำ จะมีส่วนผสมและเครื่องปรุงที่มีติดบ้านอยู่แล้ว ประหยัดทั้งงบและเวลาค่ะ

สล็อต

วิธีรับประทาน
แกะออกจากแรป ใส่ถ้วย ใส่ผักและโปรตีนตามชอบ ได้ทั้งอาหารแห้งและอาหารปรุงแล้ว เติมน้ำร้อนแล้วคนให้เข้ากันก็พร้อมรับประทานค่ะ
ลักษณะของมิโสะ และการเลือกใช้
“มิโสะ” ทำจากถั่วเหลืองหมักกับหัวเชื้อที่เรียกว่า โคจิ (koji/麹)ผสมเกลือ มีแร่ธาตุและจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ลักษณะนิ่ม รสชาติเป็นเอกลักษณ์ มีรสเค็ม เค็มมาก เค็มน้อย ขึ้นอยู่กับเกลือและระยะเวลาในการหมัก นอกจากนี้ยังหมักกับข้าว ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์ ได้ ฉะนั้นจึงแบ่งลักษณะของมิโสะได้ 3 หัวข้อหลัก ดังนี้
(1.) จากรสชาติ คือ เค็มน้อย เค็มกลาง และ เค็มมาก
(2.) จากสี คือ สีออกขาว สีกลางๆ สีออกแดง และ
(3.) จากวัตถุดิบที่ใช้หมัก

สล็อตออนไลน์

ทั้งหมดนี้ทำให้ในแต่ละภูมิภาคของญี่ปุ่นนั้นมีมิโสะแตกต่างกันไป หลายจังหวัดก็มีมิโสะที่มีชื่อเสียงของที่นั้นๆค่ะ

ร้านที่ขายเฉพาะมิโสะที่ญี่ปุ่นบางร้านจะมีให้เลือกชิม เราสามารถซื้อรสที่ชอบได้ ส่วนตามซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆก็จะมีครบแทบทุกประเภท ซึ่งมิโสะหลายยี่ห้อผสมสารกันบูดและสารเสริม แนะนำชนิดปลอดสารค่ะ ซึ่งมีตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นคำว่า mutenka (มุเทนคะ) เขียนว่า 無添加 ที่บรรจุภัณฑ์อย่างชัดเจน มักจะมีราคาแพงกว่า แต่ดีต่อร่างกายค่ะ ถ้าหาได้ก็อยากแนะนำสิ่งนี้

สำหรับที่ไทย มิโสะที่ใช้ตามร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นมิโสะขาว หลายคนอาจคุ้นเคยรสชาตินี้ จะเลือกใช้แต่มิโสะขาวก็ได้นะคะ แต่ถ้าเป็นไปได้สำหรับสูตรมิโสะดามะนี้ ใช้มิโสะ 3 ชนิด ผสมกันค่ะ

jumboslot

ส่วนผสมที่ใช้ตกแต่งและเพิ่มรสชาติ
ส่วนผสมที่นิยมใช้มักเป็นเป็นอาหารแห้งที่เป็นเครื่องปรุงในซุปต่างๆอยู่แล้วค่ะ ชนิดที่เติมน้ำร้อนก็รับประทานได้เลย ราคาประมาณ 100-300 เยน หาซื้อได้ที่ร้านร้อยเยน และซุปเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นทั่วไปค่ะ แต่อย่างที่บอกไปว่า ไม่มีสูตรตายตัว เพราะฉะนั้นจะลองใส่ของแห้งชนิดอื่นที่ตัวเองชอบก็ได้นะคะ
หากใช้อาหารสดที่นำมาปรุงสุก ยากต่อการปั้นก้อน ด้วยปริมาณที่เยอะและลักษณะที่นิ่มค่ะ ทั้งยังเก็บได้แค่ 1-2 วันเองค่ะ
ถ้าวัตถุดิบพร้อมแล้วมาเริ่มทำกันเลยค่ะ

สูตร มิโสะดามะ
ก่อนอื่นต้องปรุงมิโสะผสมดะชิค่ะ ใช้มิโสะชนิดใดก็ได้ 2-3 ชนิดผสมกัน จะทำให้ซุปมีรสชาติกลมกล่อม อร่อยมีอูมามิยิ่งขึ้นค่ะ หรือชนิดเดียวก็ได้นะคะ ถ้าใช้ชนิดที่ผสมดะชิแล้ว ข้ามไปทำขั้นตอน ”มิโสะมารุ”ได้เลยค่ะ

slot

ส่วนผสม สำหรับ 1 ที่

  1. มิโสะ 12 กรัม (2 ช้อนชา)
  2. ผงซุปญี่ปุ่น 1 กรัม (1/3 ช้อนชา)
    ชงกับน้ำร้อน 180 มิลลิลิตร : 1 ที่
    วิธีทำ
    ผสมมิโสะกับผงซุปให้เข้ากัน ใช้แรปห่อแล้วปั้นเป็นก้อนกลม
    มิโสะผสมดะชินี้ เก็บใส่ตู้เย็นได้ 2 สัปดาห์ และ ช่องฟรีซ 2-3 เดือน มิโสะแช่ช่องฟรีซได้ไม่แข็งค่ะ ตู้เย็นตามบ้านเรือน ช่องฟรีซอุณหภูมิ -5℃~-15℃ ซึ่งไม่ต่ำกว่า -20℃ ที่มิโสะจะเป็นก้อนแข็งได้ค่ะ ลองทำทานกันก็ได้นะคะ