เริ่มต้นจากงานเทศกาลศิลปะ Setouchi International Art Festival ที่จัดขึ้นทุกๆ 3 ปี โดยเป็นการนำงานศิลปะไปวางไว้ตามเกาะต่างๆ ในเขตทะเล Seto Inland Sea ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เกาะที่เคยเงียบเหงาก็คึกคักไปด้วยผู้คน งานศิลปะก็เพิ่มมากขึ้นทุกปีๆ โดยรวมศิลปินดังสุดๆ ของทั้งญี่ปุ่นและต่างประเทศเอาไว้ครบครัน เรียกว่าใครยังไม่เคยไป ต้องไปให้ได้สักครั้งนะ
- Shodoshima
เกาะใหญ่ที่ขึ่นชื่อเรื่องผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับมะกอก เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะของ Seto Inland Sea แค่ดูงานศิลปะให้ทั่วเกาะก็ต้องใช้วลาทั้งวันเลย - Inujima
Inujima อาจจะเดินทางไปยากหน่อยเพราะมีเรือวิ่งน้อย แต่งานแสดงภายในเกาะขอบอกว่าคุ้มค่าแก่การไปดูมากๆ โดยงานศิลปะชิ้นหลักนั้นจะจัดอยู่ในเหมืองทองแดงเก่า และงานเล็กๆจะกระจายอยู่รอบๆ เกาะ
- Megijima
เกาะ Megijima เป็นเกาะที่ปรากฏในตำนานพื้นบ้านญี่ปุ่นเรื่อง Momotaro มีงานเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วเกาะ และมีบ้านเรือนชาวประมงให้เดินเยี่ยมชมด้วย - Ogijima
อีกหนึ่งเกาะชาวประมงที่มีเสน่ห์ นอกจากอาคารใหญ่เก๋ไก๋นี้แล้ว ก็ยังมีงานศิลปะเล็กๆ ซ่อนอยู่ตามหมู่บ้านของชาวประมงด้วย
- Teshima
เกาะนี้ขอแนะนำให้มา Teshima Museum เป็นแห่งแรกเลย จากนั้นค่อยๆ ตระเวณไปดูงานศิลปะให้ทั่วเกาะ ตามด้วยนั่งจิบกาแฟในร้านกาแฟตามจุดต่างๆ จะขึ้นรถบัสหรือจะเช่าจักรยานขี่เที่ยวก็ได้ มีเนินเขาสูงมองเห็นวิวได้ทั่วเกาะอีกด้วย - Naoshima
งานศิลปะกว่า 20 ชิ้นวางกระจายอยู่ทั่วเกาะ ต้องใช้เวลาเที่ยวทั้งวันเลย นอกจากนี้ภายในเกาะยังเต็มไปด้วยพิพิทธภัณฑ์มากมาย ทั้ง Chichu Museum, Benesse Art House, Lee Ufan Museum และ Art House Project สามารถเดินทางได้สะดวก และมีโรงแรมภายในเกาะด้วย สัญลักษณ์ที่ใครๆก็ต้องไปถ่ายรูปคือประติมากรรมฟักทองของศิลปิน Kusama Yayoi ศึกษาความรู้ไว้เผื่อมีโอกาศได้ใช้
เทศกาลโอบ้งคืออะไร?
เทศกาลโอบ้งจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อน ในวันที่ 13-16 สิงหาคมของทุกปี เป็นเทศกาลที่ชาวญี่ปุ่นจะกลับบ้านเกิดเพื่อไปไหว้บรรพบุรุษ
เชื่อกันว่าในช่วงเวลานี้วิญญาณจะได้รับอนุญาติให้กลับมายังโลกได้ชั่วคราว
โอบ้งเป็นหนึ่งในเทศกาลของญี่ปุ่นที่มีความสำคัญพอๆกับปีใหม่ บริษัทส่วนมากจะปิดทำการในช่วงนี้ และแม้ว่าเทศกาลโอบ้งจะเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นทั่วประเทศ แต่ก็มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละภูมิภาค
บางคนจะจุดไฟ “มุคาเอฮิ” ไฟต้อนรับหน้าประตูบ้าน เพื่อนำทางให้วิญญาณของบรรพบุรุษเดินทางมา โดยไม่หลงทาง และในวันสุดท้ายก็จะมีการจุด “โอคุริบิ” เพื่อส่งดวงวิญญาณกลับ บางที่ก็มีการนำโคมไปลอยในแม่น้ำ และสำหรับบางพื้นที่จะใช้ตะเกียบที่หักได้หรือไม้ขีดไฟมาเสียบเข้ากับแตงกวาหรือมะเขือม่วง ทำเป็นรูปทรงม้า และวัว เพื่อให้บรรพบุรุษขึ่กลับไปยังอีกโลกหนึ่ง