คนญี่ปุ่นดื่มอะไรกัน รู้จักเหล้ายอดนิยม 5 ชนิด

ใครกลัวสั่งไม่ถูกมาทางนี้เลย ขอนำประสบการณ์ที่เคยทำงานพิเศษบาร์เครื่องดื่มที่ญี่ปุ่นมาบอกกัน ว่าญี่ปุ่นเค้านิยมดื่มเหล้าอะไรกันบ้างซัก 10 ชนิด เตรียมแก้วรอได้เลย คัมไป!

  1. เหล้าสาเก หรือ นิฮงชู (แปลว่าเหล้าญี่ปุ่น)
    ระดับแอลกอฮอล์:10-20%
    เหล้าสาเก หรือ ไวน์ข้าว เป็นเหล้าที่หมักโดยใช้ ข้าว น้ำ และหัวเชื้อโคจิ (หรือข้าวมอลต์) เป็นส่วนผสมหลัก ที่จะนำมาหมักเพื่อให้เปลี่ยนสภาพเป็นน้ำตาล จากนั้นนําไปหมักกับยีสต์ จนได้รสชาติเฉพาะตัวซึ่งความเปรี้ยว ความนัว นั้นก็จะขึ้นกับปริมาณสัดส่วนของวัตถุดิบที่ว่ามา

jumbo jili

การหมักนิฮงชูนี้ถือเป็นศิลปะเฉพาะตัวอย่างหนึ่งของแต่ละชุมชน จนกลายเป็นอีกหนึ่งสินค้า OTOP ประจำท้องถิ่นที่เรียกว่า Jisake (สาเกท้องถิ่น) ที่ใครไปเมืองไหนก็ต้องหานิฮงชูของเมืองนั้นมาลิ้มลอง โดยปกติคนญี่ปุ่นมักจะเรียกว่านิฮงชูแต่คนต่างชาติจะเรียกว่าสาเก ส่วนวิธีการดื่มก็จะดื่มได้ทั้งแบบร้อน แบบเย็น หรือแบบอุณหภูมิปกติ แล้วมักจะดื่มแบบเพียวๆเน้นๆ เรียกว่าเหล้าที่คู่ควรสำหรับสายแข็งอย่างแท้จริง!

  1. โชจู (Shochu) และ อะวาโมริ (Awamori)
    ระดับแอลกอฮอล์:25-40%
    อีกหนึ่งชนิดเครื่องดื่มที่อยากให้สายแข็งลองมาดวลกัน เพราะโชจูคือเหล้าอีกชนิดหนึ่งที่คนญี่ปุ่นดื่มกันมาตั้งแต่อดีตรองจากสาเก แต่มีระดับแอลกอฮอล์สูงกว่าสาเกญี่ปุ่นเป็นเท่าตัว เรียกว่างานนี้ไม่สตรองจริงเป็นต้องคอพับคออ่อนนอนหน้าสถานีรถไฟเป็นแน่

สล็อต

โชจูเป็นเหล้ากลั่นที่ทำมาจาก ข้าว มันเทศ ข้าวสาลี และน้ำตาลอ้อย โดยปกติมักเสิร์ฟแบบใส่น้ำแข็ง โดยผสมกับน้ำ, น้ำผลไม้, น้ำอัดลม

ส่วนอะวาโมริเป็นโชจูของ Okinawa ที่จะมีความแตกต่างจากโชจูปกติก็ตรงที่จะใช้เม็ดข้าวที่เล็กยาวแบบไทยแทนข้าวเม็ดสั้นแบบญี่ปุ่น และใช้หัวเชื้อโคจิมอลต์ดำพื้นเมืองแบบ Okinawa และมักจะเสิร์ฟมาในไห ชอบแบบไหนก็เลือกได้ตามชอบนะจ๊ะ

  1. วิสกี้ (Whisky)
    ระดับแอลกอฮอล์:40-43%

สล็อตออนไลน์

แม้จะเป็นเครื่องดื่มที่มีกลิ่นอายของตะวันตกแต่ วิสกี้เครื่องดื่มสีอำพันก็ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น ด้วยความพิถีพิถันในการนำธัญพืชเช่นข้าวบาร์เลย์, ข้าวไรย์, ข้าวโพด และอื่นๆมาหมัก แล้วใช้เอนไซม์จากมอลต์มาเปลี่ยนให้เป็นน้ำตาล ก่อนจะนำมากลั่นออกมาด้วยอุณหภูมิสูง จนได้ออกมาเป็นวิสกี้ที่มีระดับแอลกอฮอล์สูงลิ่วนำหน้าน้ำเมาทุกชนิด แต่ก็มีความน่าหลงใหล นำไปเจือจางกับอะไรก็อร่อย

ส่วนวิธีการดื่มวิสกี้ของคนญี่ปุ่นนั้น ก็จะมีเพียวๆไม่ใส่น้ำแข็ง (straight) วิสกี้ใส่น้ำแข็ง (on the rock) วิสกี้ผสมน้ำและใส่น้ำแข็ง (Mizuwari) วิสกี้ผสมจินและวอดก้า วิสกี้ผสมโซดาและใส่น้ำแข็ง (Haibōru) แบบหลังเป็นที่นิยมดื่มกันมาก โดยเฉพาะคนที่เริ่มต้นมาเดินทางสายนี้ เพราะดื่มง่ายสุดละ

ส่วนใหญ่วิสกี้จะบรรจุในขวดแก้วสุดหรูหรา น่าเอาไปเป็นของฝากหนุ่มๆนัก สามารถสั่งมาดื่มหรือหาซื้อได้ตามร้านอาหารและร้านเหล้าทั่วไป แถมเดี๋ยวนี้เค้ามี Haibōru ขายเป็นกระป๋องแล้วด้วยนะ ระดับแอลกอฮอล์ก็ต่ำลงมาเหลือ 5-7 % ด้วย ใครอยากลองจะได้ไม่ต้องคิดเยอะ ชิมขำๆได้แม่ไม่ว่า (มั้ง)

jumboslot

4.เบียร์ (Beer)
ระดับแอลกอฮอล์:4-5.5%
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก เพราะดื่มง่ายไม่ต้องมีพิธีรีตรองอะไรมาก หากจะเริ่มต้นชนแก้วในวง คนญี่ปุ่นจะเริ่มชนด้วยเบียร์หรือเบียร์สดเสมอๆ เบียร์ของที่ญี่ปุ่นจะมีส่วนผสมหลักคือข้าวบาร์เล่ย์ที่ถูกนำไปหมักจนได้เป็นมอลต์ จากนั้นจึงผสมยีสต์เพื่อเปลี่ยนน้ำตาลในมอลต์เป็นแอลกอฮอลล์จึงได้เป็น ‘เบียร์’

ซึ่งเบียร์แท้นั้นต้องมีมอลต์ในปริมาณที่กำหนด (มีมากกว่า 2 ใน 3 ของวัตถุดิบหลัก) แต่ด้วยภาษีที่ผู้ผลิตต้องเสียแพง ทำให้เบียร์มีราคาสูงตามไปด้วย สำหรับเบียร์ยี่ห้อดังและนิยมดื่มกันบ่อยๆก็จะมี Asahi, Santory, Kirin หรือ Sapporo เป็นต้น

5.ฮัปโปชู (Happoshu)
ระดับแอลกอฮอล์:3-8%

slot

ฮัปโปชูแปลตรงตัวว่า “เหล้าที่มีฟอง” ก็ถือเป็นเบียร์ชนิดหนึ่งที่มีความเอาใจสายอ่อน เพราะฮัปโปชูคือเบียร์ที่ผสมมอลต์อยู่ในปริมาณน้อยกว่า จึงทำให้มีรสชาติที่เบากว่าเบียร์ โดยวัตถุประสงค์ของฮัปโปชูนอกจากจะเป็นการสร้างกลุ่มสินค้าใหม่ๆ ดยเปลี่ยนระดับความเข้มแล้ว ในญี่ปุ่นการที่มีมอลต์น้อยกว่าก็ยังมีผลทางภาษีอีกด้วย ทำให้ฮัปโปชูมีการเก็บภาษีที่ถูกกว่าเบียร์ ฉะนั้นถ้าคุณอยากดื่มเบียร์แต่งบน้อยก็ให้สอยเจ้าฮัปโปชูมาแทนได้เลย

นอกจากนี้ก็ยังมีเบียร์อีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า ฮัปโปเซอิ (Happosei) หรือ Third Beer (เบียร์อันดับที่ 3) เป็นเบียร์ที่ไม่มีส่วนผสมของมอลต์เลย แต่ใช้วัตถุดิบเป็นข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง หรือมันฝรั่งในการผลิตแทน เป็นเบียร์รุ่นหลานที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากมีรสชาติของผลไม้หรือรสหวานอื่นๆนอกเหนือจากรสเบียร์ปกติ แถมมีราคาถูกกว่าด้วย อันนี้ น่าจะเหมาะกับสายแบ๊วๆใสๆอย่างเราที่สุดแล้วล่ะ (ถามจริ๊ง…) อยากลองก็ต้องไปลองกันครับ

9 ประโยคน่าจดจำและเอาไปใช้ในร้านอิซากายะ

ถ้ามีโอกาสได้ไปในร้านอิซากายะแล้วล่ะก็ อย่างน้อยๆ ก็ต้องได้ยินประโยคเหล่านี้กันมาบ่อยๆ ไม่ว่าจะจากโต๊ะข้างๆ หรือโต๊ะเดียวกันเอง วันนี้เรารวบรวมประโยคสุดฮิต ที่ถ้าเหยียบเข้าไปในร้าน จะต้องได้ยินคำเหล่านี้แน่ๆ และเพื่อให้เข้าใจความหมาย และใช้ได้อย่างถูกต้อง วันนี้เรามาดูกันเลยว่ามีคำว่าอะไรกันบ้าง

  1. Biiru nomu hito ? (ビール飲む人?) ใครดื่มเบียร์บ้าง
    เป็นที่แน่นอนว่า เข้าไปในร้านอิซากายะ ก็ต้องสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มกันให้ชื่นใจ แต่ว่าไม่ใช่ทุกคนน่ะสิ ที่จะสามารถลิ้มรสเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ยกตัวอย่างเช่น คนที่แพ้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (ตามกฎหมายญี่ปุ่นระบุว่าต้องมีอายุ 20 ปีจึงจะดื่มได้) ดังนั้นก็จะมีประโยคเช่น

jumbo jili

ビール飲む人?(Biiru nomu hito) ใครดื่มเบียร์บ้าง
水飲む人?(Mizu nomu hito) ใครดื่มน้ำบ้าง
ソフトドリンク飲む人?(Sofuto dorinku nomu hito) ใครดื่มซอฟดริงค์บ้าง
โดยถึงแม้ว่า ถ้าไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอิซากายะ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนะครับ เพราะบางที ถ้านำรถยนต์ส่วนตัวมาก็จำเป็นจะต้องมีคนขับรถไว้ด้วย ยังไงซะ เมาไม่ขับ ก็เป็นสิ่งจำเป็นนะ

สล็อต

  1. Toriaezu Nama (とりあえず生)ก่อนอื่นก็เบียร์สด
    ถือเป็นประโยคยอดฮิตตามร้านอิซากายะเลยครับ ว่าก่อนอื่นเลยก็ต้องนามะ หรือ นามะบีรุ ภาษาไทยก็คือเบียร์สดนั่นเอง ด้วยรสชาติดับกระหายหลังจากเดินหาร้านนานๆ ใครที่อยากลองสั่งออเดอร์เป็นภาษาญี่ปุ่น ประโยคนี้ถือเป็นประโยคเบสิกที่สุดเลย อย่าลืมเอาไปลองใช้พูดกันนะ
  2. Kampai !! (乾杯)ชนแก้ว
    น่าจะเป็นคำที่เราคุ้นเคยกันอยู่อีกคำหนึ่ง เมื่อถึงเวลาชนแก้ว ทุกคนก็จะยกแก้วของตัวเองขึ้นมา แล้วพูดพร้อมๆกันว่า คัมไป !!! หลังจากทำงานมาเหนื่อยๆ การที่ได้ดื่มเครื่องดื่มพร้อมกับเพื่อนร่วมงานก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการพักผ่อนเช่นกันนะ

สล็อตออนไลน์

  1. Menu wo Kudasai (メニューをください)ขอเมนูด้วยครับ/ค่ะ
    ถ้าไม่มีเมนู อาจจะสั่งอาหารลำบากกันแน่ๆ ถึงแม้ว่าตามร้านอิซากายะจะมีป้ายแขวนเมนูอยู่ตามร้าน แต่บางทีเราก็อยากดูเมนูอื่นๆด้วย ประโยคนี้ไม่ได้ใช้ได้กับแค่เมนูอย่างเดียวนะ แค่เปลี่ยนคำว่าเมนูข้างหน้า เป็นคำอื่นเช่น โอะฮิยะ หรือ น้ำเย็น ก็สามารถสั่งอย่างอื่นได้แล้ว ง่ายใช่ไหมล่ะ
  2. Osusume wa? (おすすめは?) มีอะไรแนะนำบ้าง
    เมนูในร้านอิซากายะ มีมากมายมหาศาล ไอ้ครั้นจะไปนั่งดูเมนูทีละอย่างก็เห็นเวลาจะหมดซะก่อน ก็ต้องใช้คำนี้เลย ยิ่งบางร้านที่เป็นร้านที่ไม่ใช่ร้านแฟรนไชน์ ก็จะมีเมนูแนะนำพิเศษ หรือตามฤดูต่างๆ วัตถุดิบก็จะมีไม่เหมือนกันด้วย ก็ยิ่งทำให้เจอของอร่อยๆได้ง่ายขึ้นจริงไหม

jumboslot

  1. Kore kudasai (これください) เอาอันนี้
    เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเลือกสั่งอาหาร ยิ่งเป็นอาหารที่ชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ ยิ่งพลาดอ่านผิดได้ง่ายๆอีก โดยคำว่า โคเระ (これ) แปลว่า อันนี้ และ คุดาไซ ก็เหมือนกับที่อธิบายไปก่อนหน้านี้คือ เป็นคำขอ เท่านี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอ่านชื่อเมนูผิดแล้ว แค่ชี้ให้เขาดู แล้วก็พูดตามคำนี้เท่านั้นเอง
  2. o-tearai wa? (お手洗いは?) ห้องน้ำอยู่ทางไหน
    แหม่ ดื่มมาเยอะๆก็ต้องปลดทุกข์เป็นเรื่องปกติ ว่าแต่ห้องน้ำอยู่ทางไหนล่ะ ก็ต้องใช้ประโยคนี้ถามเลยถ้าหาไม่เจอ นอกจากคำว่า o-tearai แล้ว ยังมีคำว่า โทอิเระ (トイレ) ที่แปลว่าห้องน้ำเช่นกัน ก็ยังสามารถใช้ได้นะ แต่คำว่า โอะเทอาไร จะเป็นคำที่ดูสุภาพกว่า

slot

  1. Mou Ippai (もう一杯) ขออีกแก้ว
    เบียร์เย็นๆ หมดแก้วแล้วทำยังไงดี เรียกพนักงานแล้วสั่งเลย โมว อิปไป จังหวะจะได้ต่อเนื่อง อย่าลืมเช็คคนข้างๆด้วยล่ะ ว่ายังอยากต่ออีกแก้วหรือเปล่าแล้วรีบสั่งต่อเลย
  2. Kaikei Onegaishimasu (会計お願いします) คิดเงินด้วยครับ/ค่ะ
    พออิ่มกันได้ที่ ก็ถึงเวลาคิดเงิน แค่เรียกพนักงาน แล้วบอกว่า ไคเค โอเนไกชิมัส เพื่อเป็นการบอกว่า ขอคิดเงินด้วย
    นอกจากนี้ ก็ยังมีคำว่า เชคคุ โอเนไกชิมัส チェックお願いします ซึ่งก็มีความหมายเดียวกัน
    ส่วนเรื่องใครจ่ายเงินนั้น ก็คิดกันให้เสร็จสรรพเรียบร้อยก่อนล่ะ ในบางที ก็มีกรณีที่มีคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ สมัยนี้ก็มีแอพลิเคชั่นที่เอาไว้ใช้คำนวณรายจ่ายแยกกันด้วยแล้วนะ

เห็นไหมว่า ภาษาญี่ปุ่นในร้านอิซากายะ ไม่ยากเลย ถ้าได้ลองมาเที่ยวญี่ปุ่น ก็ลองฝึกคำพวกนี้ไว้ใช้พูดดูนะ คนญี่ปุ่นชอบการท่องเที่ยวและการกินมาก

ทสึยุ เครื่องปรุงอาหารเส้นของญี่ปุ่น

วัฒนธรรมการรับประทานเส้นของคนญี่ปุ่นมีมานานแสนนาน ทั้งโซบะ อุด้ง ฮิยามุงิ โซเมน ซึ่งทสึยุคือซอสครอบจักรวาลที่ใช้ทานหรือปรุงเส้นเหล่านั้นนั่นเองค่ะ เคยกินหมี่เย็นจุ่มซอสใช่ไหม นั่นคือหนึ่งในวิธีใช้ล้านแปดของทสึยุค่ะ

มารู้จัก”ทสึยุ”กัน
ทสึยุ (つゆ) คือหนึ่งในเครื่องปรุงอาหารสำคัญของญี่ปุ่น มีส่วนผสมของโชยุ มิริน และดะชิ(น้ำสต็อกสาหร่ายคอมบุหรือปลาโอแห้ง) มักใช้เป็นซอสกินกับอาหารเส้นๆของญี่ปุ่นอย่าง โซบะ อุด้ง ฮิยามุงิ และโซเมน
ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีทสึยุนั้น คนญี่ปุ่นกินโซบะหรืออุด้งกับน้ำจิ้มจากมิโสะ แต่ด้วยวิธีการทำที่ยุ่งยาก จึงเริ่มใช้โชยุเป็นส่วนผสมแทน จนเกิดเป็น เมนทสึยุ ที่ใช้จุ่มกับเส้นมาจนทุกวันนี้

jumbo jili

นอกจากนี้ ทสึยุก็ยังมีหลากหลายประเภท ไม่ใช่แค่เมนทสึยุที่ไว้จุ่มกับเส้นหมี่ แต่ยังมีทสึยุที่ใช้ปรุงอาหารได้หลากหลายอีกด้วย เนื่องจากทสึยุมีส่วนผสมของโชยุ มิริน และดะชิ ซึ่งเป็นเครื่องปรุงหลักของอาหารญี่ปุ่น จึงสามารถเข้ากับอาหารญี่ปุ่นหลายชนิด ใช้เพียงขวดนี้ไม่ว่าจะปรุงเมนูไหนก็อร่อยค่ะ เช่นโอเด้ง ผัดผัก สลัดญี่ปุ่น ผักตุ๋น เทริยากิ หม้อไฟ และอื่นๆ

ทสึยุเริ่มผลิตขายเป็นสินค้าจริงจังราวปี 1952 แต่ในปัจจุบันหากนับรวมทสึยุทุกชนิด (ทั้งแบบใช้จุ่มกินกับเส้นและแบบใช้ปรุงอาหาร) ทสึยุนั้นขายดียิ่งกว่าโชยุเสียอีก แม้คนต่างชาติอย่างเราจะเข้าใจว่าโชยุคือเครื่องปรุงที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น แต่สำหรับคนญี่ปุ่นทสึยุนั้นขายดีแซงโชยุไปแล้ว

ทสึยุสำหรับจุ่มกับหมี่เย็น เครื่องปรุงที่ขายดีมากในฤดูร้อน
พอถึงหน้าร้อนหรือช่วงเดือนมิถุนาถึงสิงหาของญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นจะนิยมกินเมนูเย็นๆเพื่อดับร้อนค่ะ อย่างเช่นหมี่เย็นจุ่มกับซอส ซึ่งซอสที่ว่าก็คือทสึยุนั่นเองค่ะ มีขายทั้งแบบพร้อมทานและแบบเข้มข้นที่ต้องผสมกับน้ำเปล่าก่อนกิน

สล็อต

ชนิดของเส้นหมี่ที่นิยมทำเป็นหมี่เย็นในหน้าร้อนก็คือ ฮิยามูงิ และ โซเมน ทั้ง 2 นี้ทำมาจากแป้งสาลีเหมือนกัน ต่างที่ขนาดเส้น เส้นโซเมนเล็กสุด ประมาณเส้นขนมจีนของไทยค่ะ

ประเภทหมี่เย็นญี่ปุ่น
เส้นหมี่ญี่ปุ่นตามซุปเปอร์มาร์เก็ตมีขายทั้งแบบแห้งและแบบต้มแล้วพร้อมรับประทาน คนที่นี่นิยมซื้อแบบแห้งมาต้มเองมากกว่า เพราะราคาถูกและได้ปริมาณเยอะ ทำก็ไม่ยากด้วยค่ะ เมื่อต้มเส้นสุกแล้ว นำมาล้างน้ำเย็นหลายๆน้ำจนหมดแป้งนวล เส้นโซบะและอุด้ง เสิร์ฟโดยวางบนกระจาดหรือตะแกรงไม้ไผ่ พร้อมถ้วยทสึยุ เรียกว่า ซารุโซบะ และ ซารุอุด้ง ส่วนเส้นฮิยามูงิและโซเมน เสิร์ฟโดยแช่น้ำเย็นจัดพร้อมถ้วยทสึยุ ไม่ก็จับปั้นเป็นคำๆ จัดใส่จานเสิร์ฟพร้อมทสึยุเย็นจัดค่ะ

สล็อตออนไลน์

นางะชิโซเมน หมี่เย็นไหลบนรางน้ำ
สำหรับเส้นหมี่เย็นโซเมน มีวิธีกินอีกแบบเรียกว่า นางะชิโซเมน คือการปล่อยเส้นเป็นคำๆใส่รางที่รองน้ำให้ไหลมาจากต้นราง คนกินก็ใช้ตะเกียบคีบเส้นจากรางมาจุ่มเมนทสึยุกิน โดยรางที่ใช้ทำมาจากไม้ไผ่ผ่าครึ่ง ไม้ไผ่ยิ่งยาวยิ่งทานสนุก ทานพร้อมกันได้หลายคน

แต่ปัจจุบันไม้ไผ่ในเมืองนั้นหายาก บ้านใครไม่กว้างพอก็ทำกินยากด้วยค่ะ จึงมีเครื่องนางาชิโซเมงขาย ตอบโจทย์ความสะดวกสบายแบบญี่ปุ่นค่ะ สำหรับราคานะคะ มีหลายราคาค่ะ ราคากลางๆประมาณ 4,000 เยน (1,150 บาท)

jumboslot

อาหารประเภทเส้นของญี่ปุ่น
คะเคะทสึยุ (かけつゆ) แปลว่า น้ำราด เส้นหมี่บวกกับน้ำราดก็คือก๋วยเตี๋ยวน้ำนั่นเองค่ะ
ทสึเคะทสึยุ (つけつゆ) แปลว่า น้ำจิ้ม สำหรับจุ่มเส้นกินคำต่อคำ หรือก็คือหมี่จุ่มนั่นเองค่ะ

ซึ่งทั้งสองชนิดนี้ใช้เมนทสึยุผสมกับน้ำเปล่าเหมือนกันค่ะ ต่างกันแค่ปริมาณ น้ำราดจะผสมน้ำเยอะกว่า ส่วนซอสจิ้มจะใส่น้ำน้อย เข้มข้นกว่า สำหรับอัตราส่วนสามารถดูได้จากป้ายผลิตภัณฑ์นั้นๆ

ตัวอย่างอาหารเส้นประเภทคะเคะทสึยุ (ก๋วยเตี๋ยวน้ำ) ก็อย่างเช่น เช่น คาโมะโซบะ (โซบะต้มใส่เนื้อเป็ด), คิทสึเนะอุด้ง (อุด้งต้มใส่เต้าหู้ทอด)
ตัวอย่างอาหารเส้นประเภททสึเคะทสึยุ (บะหมี่จุ่ม) ก็อย่างเช่น ซารุโซบะ (เส้นโซบุเปล่าจิ้มทสึยุ), นิคุทสึเคะอุด้ง (เส้นอุด้งจิ้มทสึยุผสมเนื้อหมู)

slot

ฮอนทสึยุ คือ
ฮอนทสึยุ (本つゆ) คำว่า ฮอน (本) แปลว่า แท้ จึงทำให้หลายคนเข้าใจว่านี่คือทสึยุแท้ ต่างจากทสึยุทั่วไป แท้จริงแล้ว”ฮอนทสึยุ” เป็นแค่ชื่อผลิตภัณฑ์ที่ผู้ผลิตตั้งขึ้น ซึ่งเป็น”ทสึยุ”เหมือนกันค่ะ ไว้ทานกับเส้นต่างๆ และสามารถนำมาปรุงอาหารชนิดอื่นได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใด ฉลากภาษาญี่ปุ่นชื่อไหนๆก็เหมือนกันค่ะ ทั้งส่วนผสมหลักและวิธีรับประทาน จะต่างก็แค่ความเข้มข้นค่ะ

ทสึยุ กับ ชิโร่ดะชิ รสชาติเหมือนกัน
ทสึยุ (つゆ) กับ ชิโร่ดะชิ (白だし) หากได้ลองชิมเครื่องปรุงทั้ง 2 ชนิดนี้ จะรู้ว่ารสชาติแทบไม่ต่างกัน ส่วนผสมก็ใกล้เคียงกัน หลายคนอาจสงสัยว่ามันใช้แทนกันได้ไหม คำตอบคือขึ้นอยู่กับอาหารที่ต้องการปรุงค่ะ เพราะ ชิโร่ดะชิ มีสีอ่อน รสเข้มข้นมาก นิยมใช้ปรุงน้ำซุป ทำไข่ตุ๋นไข่ม้วน และอาหารหลายๆอย่างคล้ายทสึยุแต่ไม่ใช้จุ่มเส้นกินค่ะ ถ้ากินกับเส้นแบบสดๆเราใช้ทสึยุเท่านั้นค่ะ

เมื่อรู้จักทสึยุแล้ว อยากปรุงอยากกินอาหารญี่ปุ่นชนิดใดก็เลือกซื้อได้ถูกไม่มีลังเลค่ะ ถ้าจะทำผัดทอดหรืออาหารญี่ปุ่นทั่วไปที่ต้องปรุงรส ก็ต้องซื้อสาเก โชยุ มิริน 3 ขวด แต่ถ้าจะทำอุด้ง โซบะ บะหมี่เย็นจุ่ม ก็ซื้อแค่ทสึยุขวดเดียวพอ อย่าลืมลองไปเดินดูซุเปอร์แถวบ้านนะคะ คนญี่ปุ่นชอบการท่องเที่ยวและการกินมาก

ครั้งแรกในญี่ปุ่น! ผจญภัยไปกับรถพยาบาลผีสิง

รถพยาบาลผีสิงเดลิเวอรี่ เป็นบริการส่งความสยองขวัญถึงบ้านช่วงไวรัสโควิด-19 กำลังระบาด ซึ่งส่งผลให้หลายคนไปเที่ยวสวนสนุกหรือบ้านผีสิงไม่ได้ จึงทำให้มีบริการนี้ขึ้นมาเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น สำหรับใครที่คิดถึงบรรยากาศของบ้านผีสิงในสวนสนุกแม้จะอยู่ในบ้านก็ทำให้หายคิดถึงได้

jumbo jili

เปิดประสบการณ์สุดสะพรึง! กับรถพยาบาลผีสิงเดลิเวอรี่
ครั้งแรกของญี่ปุ่นกับบ้านผีสิงเดลิเวอรี่ โดยบริษัท Kowagarasetai ผู้ให้บริการธุรกิจออกแบบบ้านผีสิง ซึ่งเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2021 ที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ได้คิดค้นบริการรูปแบบใหม่ด้วยการส่งตรงความน่ากลัวไปถึงบ้าน สำหรับยุคโควิด-19 ที่ส่วนใหญ่ต้องอยู่แต่บ้านและไม่สามารถไปเที่ยวบ้านผีสิงได้ในคอนเซป “ประสบการณ์ขนหัวลุกที่สุดในพื้นที่สุดส่วนตัว และสยองขวัญ”

สล็อต

คอนเซ็ปต์รถพยาบาลผีสิง
แนวคิดของบ้านผีสิงเดลิเวอรี่ครั้งนี้ รูปแบบคือ “รถพยาบาลผีสิง” หรือ “Screambulance” ภายในตัวรถนั้นทั้งเย็นและมืดสลัว เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น สายน้ำเกลือระโยงระยางที่ห้อยลงมาจากเพดาน เตียงผู้ป่วยกับผ้าคลุมและรอยเลือดเปรอะเปื้อนไปหมดทั่วทั้งรถ รถพยาบาลคันนี้จะไปจอดที่หน้าบ้านผู้ใช้บริการตามเวลาที่ตกลงกันไว้ จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติการชวนขวัญผวาได้เลย!

สล็อตออนไลน์

ไฮไลท์ของรถพยาบาลผีสิง
เจ้าหน้าที่ก็จะมาในชุดยูนิฟอร์มคุณหมอกับพยาบาลในสภาพชุ่มเลือดและเชิญให้ผู้ใช้บริการเข้าไปด้านนั่งข้างในรถ ความน่ากลัวของรถพยาบาลผีสิงคันนี้ก็คือ การต้องเข้าไปอยู่ในที่แคบๆ ในเวลาที่จำกัดท่ามกลางบรรยากาศกดดันรอบทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นอากาศเย็นยะเยือกพร้อมระบบเสียงภายในรถที่ใช้การบันทึกด้วย Dummy Head Microphone หรือไมโครโฟน 3 มิติ รุ่นล่าสุด KU100

ทำให้รู้สึกสมจริงราวกับว่ามีใครมาอยู่ด้วยจริงๆ แม้ไม่ได้สัมผัส อีกทั้งยังมีเอฟเฟกต์น้ำกระเซ็น การสั่นภายในรถด้วย ใครที่เป็นแฟนบ้านผีสิงหรือเรื่องราวสยองขวัญล่ะก็ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ

jumboslot

ข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับด้านความปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 ทางบริษัทผู้ให้บริการรถพยาบาลผีสิงก็สร้างความมั่นใจว่าปลอดภัยในทุกขั้นตอน ซึ่งในการจองคิวก็ปราศจาการสัมผัสอยู่แล้ว และเป็นการใช้งานเฉพาะกลุ่มไม่เกิน 6 คน หลังจากมีการให้บริการแต่ละครั้ง ก็ทำความสะอาดตัวรถด้วยการฆ่าเชื้อ และระบายอากาศระหว่างการนำไปใช้ทุกครั้งโดย “Elite Horror Team” ของทางบริษัท

slot

Screambulance ให้บริการ 23 เขตในโตเกียว ผู้ที่สนใจสามารถจอง รถพยาบาลผีสิงเดลิเวอรี่
ผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ https://kowagarasetai.com/delivery-obakeyashiki/ (ภาษาญี่ปุ่น) คนญี่ปุ่นชอบท่องเที่ยวและถือเป็นวัตธนธรรมกันสืบมา

3 เบอร์เกอร์ท้องถิ่นแห่ง Okayama

Okayama เมืองใกล้ๆทะเลเซโตะทางตะวันตกของญี่ปุ่น อุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลไม้นานาชนิดอาทิเช่น องุ่น พีช และแน่นอนว่าเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองที่มียีนส์พรีเมี่ยม คุณภาพระดับแนวหน้าของโลก และด้วยความที่เป็นเมืองที่ได้รับวัฒนธรรมอย่างมากมาจากอเมริกา ทำให้มีแฮมเบอร์เกอร์ท้องถิ่นที่รสชาติเฉพาะตัว

jumbo jili

  1. Hiruzen Jersey Land Burger ( เมือง Maniwa )
    Hiruzen Jersey Land นั้นคล้ายๆกับฟาร์มโชคชัยบ้านเรา คือเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ที่เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และให้ผู้เข้าชมทดลองรีดนมวัวดูได้ ฟาร์มแห่งนี้ตั้งอยุ่ในบริเวณที่ราบสูง Hiruzen Kogen พื้นที่รีสอร์ทยอดนิยมที่อยู่ติดกับจังหวัด Tottori นอกจากเที่ยวชม และทดลองประสบการณ์ใหม่ๆแล้ว ที่นี่ยังมีชีสเค้ก ซอฟท์ครีม รวมถึงแฮมเบอร์เกอร์ขายอีกด้วย

เบอร์เกอร์ของที่นี่ทำจากเนื้อวัวท้องถิ่น และหมูดำคุโรบุตะ โปะด้วยมะเขือเทศ Hiruzen และหัวหอม

สล็อต

  1. Mimasaka Black Soy Bean Burger ( เมือง Mimasaka)
    เบอร์เกอร์มังสวิรัตินี้ใช้ถั่วดำเป็นวัตถุดิบหลักในการทำแฮมเบอร์เกอร์ และยังใช้ผักท้องถิ่นอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นผักกาด หัวหอม มะเขือเทศ
    Mimasaka Black Soy Bean Burger ได้รับรางวัลชนะเลิศจากองค์การบริหารการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชุมชน Mimasaka ในการประกวด One-Piece Recipe Contest

ใครที่อยากลองเบอร์เกอร์มังสวิรัติชิ้นนี้สามารถไปได้ที่ Kitchen Kuromame ในเมือง Mimasaka เดินไปเพียง 5 นาทีจากสถานีรถไฟ Hayashino ของสาย Kishin Line

สล็อตออนไลน์

  1. Tsuyama Burger ( เมือง Tsuyama )
    เนื้อของเบอร์เกอร์ชิ้นนี้ทำขึ้นจากเนื้อวัว ผสมกับเนื้อหมูและเนื้อไก่ และมันเทศ โปะด้วยมะเขือเทศ Momotaro ส่งตรงจากฟาร์ม และใช้ซอสที่ทำจากซอสเดมิกลาสผสมกับแยมพีชขาว หนึ่งในของขึ้นชื่อของจังหวัด Okayama

คุณสามารถหาเบอร์เกอร์นี้ได้ตามร้านทั่วไปในเมือง Tsuyama แต่เราขอแนะนำร้าน Mugiwara Boshi ห่างไป 3 ก.ม.จากตะวันออกเฉียงเหนือของ สถานี Tsuyama

jumboslot

ดับกระหายด้วย Pepsi SAKURA!!

Suntory บริษัทผู้จัดจำหน่าย เป๊ปซี่ ในญี่ปุ่น เคยเปิดตัวเป๊ปซี่รสชาติแปลกอย่าง รสเลม่อนและมิ้นท์ และรสแตงโมผสมเกลือมาแล้ว ในคราวนี้บริษัทได้หยิบเอาหนึ่งในของขึ้นชื่อของญี่ปุ่น สัญลักษณ์แห่งฤดูใบไม้ผลิมาใช้ จนเกิดเป็น เป๊ปซี่รสซากุระ โดยเริ่มวางขายตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมานี้ ราคาขวดละ 140 เยน (ราว 45 บาท) โดยมีขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป และจะวางขายแค่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น

slot

เป๊ปซี่รสนี้มีสีชมพูเหมือนกับสีของดอกซากุระที่กำลังบาน มีรสหวานและหอมกลิ่นซากุระ ฉลากแปะขวดสีดำสนิทโดยมีคำว่า “SAKURA“ ตัวใหญ่พาดไว้ตรงกลาง ประดับด้วยลวดลายดอกซากุระที่กำลังบาน และกลีบดอกซากุระปลิวสีชมพูสดใส ชวนให้ความรู้สึกของฤดูใบไม้ผลิแบบเท่ๆ กินคู่กันไปได้ไม่เบื่อทำให้น่ากิน

6 เบนโตะเด็ดน่าซื้อไปกินบน Hokkaido Shinkansen

ใครที่วางแผนจะไปเที่ยวแถบ Tohoku และไปต่อจนถึง Hokkaido อย่าลืมไปลองนั่ง Hokkaido Shinkansen คันใหม่เอี่ยม แล้วอย่าลืมเตรียมเบนโตะไปกินบนรถไฟด้วยล่ะ แล้วจะหาว่าไม่เตือน!!

  1. ข้าวกล่องเรือสมบัติ (津軽海峡 海の宝船)
    ข้าวกล่องโดยร้านซูชิร้านดัง Yoshidya ในเมือง Hachinohe เต็มไปด้วยของดีจากท้องทะเลวัตถุดิบชั้นเลิศ โดยเฉพาะไข่หอยแม่นที่ปริมาณท่วมท้นจนตกใจ ข้าวสวยก็ใช้ข้าวญี่ปุ่นพันธุ์ดี Majigura ของจังหวัด Aomori ราคากล่องละ 1,150 เยนเท่านั้น

jumbo jili

  1. ข้าวโฮตาเตะและปลาหมึกทอด (ほたてめしとイカメンチ)
    ข้าวผสมข้าวเหนียวญี่ปุ่นหุงได้อย่างนุ่มเหนียวมาคลุกเคล้าผสมกับปลาหมึกสับก่อนจะปั้นเป็นก้อนและนำไปทอด กินกับข้าวที่หุงจากน้ำต้มหอยโฮตาเตะ ปิดท้ายด้วยการโปะหอยโฮตาเตะก้อนโต ดูเรียบง่ายแต่ยิ่งเคี้ยวยิ่งอร่อย กล่องละ 650 เยน

สล็อต

  1. เบนโตะสามไฮโซ (津軽極弁当)
    สามไฮโซจริงๆ ! เบนโตะที่แบ่งออกเป็นสามช่อง ช่องแรกเป็นข้าวโปะเนื้อปูอวบๆ หวานๆ จนแน่น มองไม่เห็นข้าว ตรงกลางเป็นไข่ปลาแซลมอน และขวาสุดเป็นไข่หอยเม่น ทั้งสามอย่างล้วนเป็นของดีของดังของภูมิภาคนี้ที่ใครไม่ทันได้ไปกินในร้าน ก็สามารถหากินได้จากเบนโตะนี่เอง ราคาถูกเกินคาดมากๆ 1,100 เยนเท่านั้น

สล็อตออนไลน์

  1. ข้าวอบโฮตาเตะ (帆立釜めし)
    ชามที่ออกมามาให้เลียนแบบรูปร่างของหม้อดินใบนี้ อัดแน่นไปด้วยความอร่อยของหอยโฮตาเตะ เคียงด้วยหน่อไม้และผักนึ่งหลากสีหลากชนิด ข้าวสวยก็เป็นข้าวหุงปรุงรสอร่อยเด็ด 900 เยนเท่านั้น

jumboslot

  1. ข้าวกล่องหน้าซูชิซาบะย่าง (焼鯖寿司)
    อันนี้อร่อยสุดยอดมากๆ ข้าวซูชิโปะด้วยซาบะย่างเต็มท่อน เนื้อซาบะหอมหวานอัดเต็มไปด้วยไขมันรสจัดจ้านที่บรรจงย่างอย่างดี กลิ่นหอมหวานอร่อย กินกล่องเดียวไม่พอหรอก กล่องล่ะ 590 เยน

slot

  1. ข้าวหน้ารวมมิตรของ Aomori (青森 味づくし)
    สำหรับคนที่รักพี่เสียดายน้อง เลือกแล้วเลือกอีกก็ตัดสินใจไม่ได้ซักที ขอแนะนำกล่องนี้เลย มีอย่างละนิดละหน่อยให้ชิม ทุกอย่างล้วนเป็นของดังของ Aomori ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นซุชิปลาหมึก โฮตาเตะต้มซิอิ้ว แถมมีสองชั้นด้วยนะ กล่องนี้คุ้มสุดๆ 1,000 เยนเท่านั้น เป็นอาหารที่นิยมกินกันทั่วไป

5 อันดับเมืองยอดนิยมในการไปศึกษาต่อที่ญี่ปุ่น

ใครที่ชอบและสนใจในประเทศญี่ปุ่นสุดๆ และอยากจะไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น จงเตรียมตัวเตรียมใจพร้อม หากทุกอย่างพร้อมแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปลงเอยที่ไหน ก็ญี่ปุ่นมีตั้ง 47 จังหวัด แถมทุกจังหวัดก็มีข้อดีไม่แพ้กัน ถ้าคิดยังไงก็คิดไม่ตก ลองไปดูเมืองท็อปฮิตที่คนต่างชาตินิยมไปเรียนต่อกัน จะได้รู้ว่าที่ไหนมีอะไรดี มีอะไรฮิต

jumbo jili

  1. Tokyo
    Tokyo เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ที่มี Harajuku แหล่งกำเนิดวัฒนธรรมย่อยของญี่ปุ่น และเป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของเหล่าวัยรุ่นญี่ปุ่นที่แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็หลงใหล มีย่านธุกิจชั้นนำหลายแห่ง เป็นที่ที่เหมาะมากสำหรับคนที่สนใจเรียนต่อทางด้านวัฒนธรรมสมัยใหม่ แฟชั่น งานออกแบบ และเทคโนโลยี เพราะว่ามีของใหม่อัพเดทจากทั่วโลกมาให้ดูเสมอๆ แต่ Tokyo ก็ไม่ได้มีแค่เมืองอย่างเดียว แต่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถศึกษาวัฒนธรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่นได้อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้า วัด หรือสวนสวยที่เต็มไปด้วยดอกไม้และธรรมชาติก็มีอยู่ครบ

สล็อต

  1. Kyoto
    ในขณะที่หลายๆ คนเลือก Tokyo เพื่อแสวงหาความโมเดิร์นและความทันสมัยสไตล์เมืองใหญ่ หลายๆ คนก็เลือก Kyoto เมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่น เมืองที่เต็มไปด้วยวัด ศาลเจ้างดงาม ถนนหนทางเก่าแก่ สวนงดงามและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ เหมาะสำหรับคนที่สนใจและอยากจะศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น หรือคนที่สนใจศึกษาในสาขาอื่นแต่อยากจะสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบเข้มข้นไปด้วย ขอแนะนำ Kyoto เลย

สล็อตออนไลน์

  1. Osaka
    Osaka ไม่ได้เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอย่าง Kyoto และไม่ได้เป็นเมืองหลวงจัดๆ แบบ Tokyo แต่ก็สามารถพูดได้ว่าอยู่ระหว่างกลางของทั้งสองแห่ง คือมีความเจริญแบบ Tokyo อยู่แต่ก็อยู่ใกล้กับ Kyoto มากๆ แบบสามารถเดินทางไปได้ในเวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้จุดเด่นของ Osaka คืออาหารอร่อยและหลากหลาย สามารถเดินทางไป Kobe แหล่งขนมหวานขึ้นชื่อของญี่ปุ่น และ Chinatown สุดอร่อยที่อยู่ใกล้ๆ กันได้ไม่ยาก นอกจากนี้ก็มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสวยงามอลังการที่ชื่อ Kaiyukan อยู่ Osaka จึงเหมาะกับคนที่ต้องการความหลากหลายในการใช้ชีวิต และเหมาะกับคนที่ชอบท่องเที่ยวเปิดโลกไปด้วยเรียนไปด้วยมากๆ

jumboslot

  1. Hiroshima
    Hiroshima เป็นอีกเมืองเก่าที่มีเสน่ห์และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น เหมาะสำหรับคนที่อยากศึกษาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแบบเข้มข้น ในสภาพอากาศที่ไม่ทรมานคนไทยอย่างเราๆ มากเท่าเมืองทางเหนือที่หนาวจัดในฤดูหนาว Hiroshima มีทะเลและศาลเจ้างดงาม มีเสา Torii สวยงามกลางน้ำที่เราเคยได้เห็นกันบ่อยๆ ตามสื่อต่างๆ จนแทบจะเรียกว่าเป็นอีกสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว เหมาะกับคนที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์และชอบบรรยากาศแบบปลดปล่อยของทะเลกว้างของเมืองทางใต้
  2. Sapporo
    Sapporo เมืองทางเหนือของญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีธรรมชาติสวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีของกินคุณภาพดีรสชาติอร่อยมากที่สุดของญี่ปุ่นเช่นกัน เหมาะสำหรับคนที่ชอบความหนาวเย็น เพราะ

slot

ภูมิอากาศส่วนใหญ่ใน Sapporo จะเป็นค่อนไปทางหนาว แต่ในเมืองก็ยังสลับไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ เป็นที่ที่เหมาะกับคนที่สนใจวัฒนธรรมแบบเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนที่ไหนในญี่ปุ่น รวมทั้งเหมาะกับคนที่สนใจธรรมชาติสวยงาม และชอบความหนาวเย็นที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ และนอกจากนี้ก็ยังมีเทศกาลต่างๆ น่าสนใจที่เด่นที่สุดก็คงจะเป็นเทศกาลน้ำแข็งที่มีการจัดแสดงผลงานแกะสลักน้ำแข็งและผลงานประติมากรรมหิมะทุกปี

เราอาจจะมีเรื่องต้องศึกษาอีกมากมายก่อนจะตัดสินใจไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น แต่อย่างน้อยเราก็คงจะได้รู้คร่าวๆ แล้วว่าแต่ละเมืองมีลักษณะพิเศษอย่างไร เผื่อจะเป็นการช่วยตัดสินใจเลือกเมืองที่จะไปเรียนต่อได้
รู้ไว้อาจมีโอกาศไปศึกษาชีวิตคนญี่ปุ่น

9 เทคนิคพิชิตรถไฟแน่น

ใครที่เคยขึ่นรถไฟที่ญี่ปุ่นจะรู้ว่า รถไฟในช่วงเวลาเร่งด่วนนั้นแน่นหนาไปด้วยผู้คนขนาดไหน และหากคุณต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ในญี่ปุ่นเป็นเวลานาน การเลี่ยงรถไฟในช่วงเวลาเร่งด่วนนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ..เราได้รวบรวมสุดยอดเทคนิค 9 กระบวนท่าสำหรับการเอาชีวิตรอดในรถไฟญี่ปุ่นมาไว้แล้วที่นี่! สตรอง!!

  1. เคล็ดวิชา ‘ปีนเขา’
    ในชั่วโมงเร่งด่วน รถไฟญี่ปุ่นจะแน่นขนัดอัดไปด้วยคนและคน อย่าว่าแต่จะได้นั่งหรือเปล่าเลย แค่จะหาเสาหรือขอบเกาะเพื่อพยุงตัวยังแทบเป็นเรื่องอิมพอสสิเบิ้ล ในสถานการณ์เช่นนี้เราขอแนะนำเคล็ดวิชา ‘ปีนเขา’ เช่นเดียวกับกีฬาที่ชื่อนี้ คุณจะต้องขยับแขนหาพื้นผิวที่สามารถ ‘เกาะ’ หรือ ‘จับ’ ให้ได้ และพื้นผิวที่คุณควานเจอจะขรุขระ คับแคบ หรือลื่นปรี๊ดแค่ไหน คุณก็จะต้องรวบรวมพลังลมปราณเกร็งมือเพื่อจับให้อยู่ให้ได้ มิฉะนั้นการเดินทางบนรถไฟของคุณอาจจะเริ่มไม่สวย

jumbo jili

  1. เคล็ดวิชา ‘นิ้วอรหันต์’
    เพียงนิ้วเดียว สามารถพลิกคุณจากผู้แพ้ให้กลายเป็นผู้ชนะได้ทันที

สถานการณ์ที่เหมาะสำหรับการใช้เคล็ดวิชานี้คือตรงประตูรถไฟ โดยก่อนอื่นให้คุณเหยียบย่างเข้าไปในพื้นผิวของพื้นรถไฟ เมื่อทำได้แล้วจงหันหน้าออกไทางชานชาลา ชูหนึ่งนิ้วขึ้นฟ้า และใช้นิ้วดั่งกล่าวยันขอบประตูด้านบน เพื่อเพิ่มความเสถียรและมั่นคงให้แก่คุณ สำหรับคนที่สูง สามารถยันที่เพดานได้เลย ซึ่งจะทำให้คุณกลายเป็น ‘เสา’ ที่ค้ำระหว่างพื้นและเพดานรถไฟ มีความมั่นคงแม้ตอนรถไฟเหวี่ยง

  1. เคล็ดวิชาพิฆาตสาว ‘คาเบะด้ง’
    ไม่น่าเชื่อว่าท่าไม้ตายของเหล่าพระเอกหนังญี่ปุ่น ‘คาเบะด้ง’ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้จริงในรถไฟชั่วโมงเร่งด่วนนี่เอง

สล็อต

ในบางครั้งที่รถไฟเหวี่ยงหรือขยับแรงๆ ผู้คนพากันล้มระเนระนาด และจะเกิดอะไรขึ้นหากคนสองคนที่หันหน้าเข้าหากันล้มใส่กันแบบตรงๆ องศาเป๊ะๆล่ะ? คุณคงได้เอาร่างกายบริเวณใบหน้าไปสกินชิพกับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายของอีกฝ่ายแน่นอน และมันก็คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไร…. แต่ปัญหานี้จะหมดไป! หากคุณใช้วิชา ‘คาเบะด้ง’ โดยในวินาทีที่คุณกำลังจะล้มไปทางอีกฝ่าย ขอให้คุณยื่นแขนข้างใดข้างหนึ่งไปดันกับผนังดัง ”ตึง!” ก็สำเร็จ ผ่านพ้นวิกฤติไปได้อย่างสวยงาม อย่างไรก็ตามเคล็ดลับของวิชานี้อยู่ตรงที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องไม่มองหน้ากันตรงๆ หากอยากหลีกเลี่ยงโมเมนท์สุดแสนโรแมนติกแบบในหนัง แต่ถ้าอีกฝ่ายหน้าตาดีก็อีกเรื่องหนึ่ง….

  1. ปรมาจารย์ ไมเคิล แจ็กสัน
    หากคุณเรียนรู้สเต็ป และท่วงท่าการแด๊นซ์ของราชาเพลงป็อปอย่าง ไมเคิล แจ็กสัน ไว้ละก็ นี่เป็นโอกาสที่จะนำมาใช้แล้ว

สล็อตออนไลน์

แน่นอนว่ารถไฟในชั่วโมงเร่งด่วนนั้น มีช่องว่างให้เราเบียดตัวเข้าไปน้อยมาก แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือพื้นที่วางเท้ากลับน้อยยิ่งกว่า และในสถานการณ์เยี่ยงนี้เอง ปลุกพลังไมเคิล แจ็กสันของคุณขึ้นมา โดยการเขย่งบนปลายเท้า และใช้สเต็ปเทพในการก้าวสอดแทรกเข้าไปในพื้นที่อันจำกัด เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

  1. เคล็ดวิชา ‘พริ้วไหวตามกระแสน้ำ’
    twitter.com
    เทคนิคก่อนหน้านี้ทั้ง 4 อันเป็นเทคนิคการแสวงหาที่ยินและการทำตัวเองให้บาลานซ์เพื่อมีชีวิตรอดในการนั่งรถไฟต่อไป แต่เทคนิคนี้แตกต่างจากเทคนิคก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง โดยท่านี้ไม่จำเป็นต้องใช้แรงในการแข็งขืนฝืนธรรมชาติ แค่เพียงปล่อยร่างกายให้พริ้วไหวไปตามแรงเหวี่ยงของรถไฟ คุณจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นมนุษย์ มนุษยชาติที่จะอยู่รอดไปถึงจุดหมายด้วยกัน
  2. เคล็ดวิชา ‘ต้นคอพิฆาตเวลา’
    ความทรมานในการรอรถไฟไปให้ถึงจุดหมายในคลื่นมนุษย์ เป็นความเศร้าอย่างหนึ่งในชึวิต ยิ่งในบางครั้งที่ความแออัดทำให้คุณไม่สามารถแม้จะยกสมาร์ทโฟนขึ้นมากดเล่นได้ ยิ่งเป็นความเศร้าอย่างที่สุด หากเศร้าแล้วจะไปทำงานอย่างมีสติ หรือไปเที่ยวเล่นอย่างสนุกสนานได้อย่างไร …และเนื่องด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงมีผู้คิดค้นเคล็ดวิชา ‘ต้นคอพิฆาตเวลา’ เพื่อมาต่อกรกับช่วงเวลาอันโหดร้ายนี้

jumboslot

วิธีการง่ายมาก มองต้นคอของคนที่อยู่ใกล้ที่สุด และค้นหาว่าคนๆนั้นมองไปทางไหน หันไปทางทิศนั้นและมองต้นคอของคนที่อยู่ทางทิศดังกล่าว ทำกระบวนการนี้ซ้ำไปเรื่อยๆ ก็จะช่วยให้คุณฆ่าเวลาได้เป็นอย่างดี

  1. พิธีนัดดูตัว ‘โอมิไอ’
    เกิดขึ้นเมื่อคุณกำลังจะก้าวออกจากรถไฟ แต่ประตูเจ้ากรรมดันปิดพอดีทำให้คุณต้องพลิกตัวกลับมาประจัญหน้ากับคนข้างหลังอย่างเสียมิได้ ในช่วงห้าวินาทีอันยาวนานก่อนที่ประตูจะเปิดอีกรอบนี้เอง ที่คุณต้องงัดวิชา’โอมิไอ’ หรือพิธีดูตัว ขึ้นมา เรียนรู้วิธีการมองหน้าอีกฝ่ายไม่ให้รู้สึกเก้อเขิน รวมถึงไม่ทำให้บรรยากาศพาไหนต่อไหนด้วย
  2. เคล็ดวิชา ‘เป๊ะทุกองศา’
    หากคุณสามารถจับห่วงด้านบนเพดานได้ คุณจะสามารถใช้เคล็ดวิชานี้ได้ เนื่องจากพื้นที่แนวระนาบมีอยู่น้อยนิด ทำให้เราต้องใช้พื้นที่ในอากาศให้คุ้มค่าด้วยการใช้มือข้างที่จับห่วงถือหนังสือพิมพ์หรือมือถือ โยกคอไปข้างหลังเพื่ออ่าน หรือเล่นเกมก็ตาม เคล็ดวิชานี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อคุณอยู่ในตู้โดยสารที่แน่นจนไม่มีแม้แต่ที่จะให้แขนอยู่

slot

  1. การโจมตีที่ดีที่สุดคือการป้องกัน
    เคล็ดวิชาสุดท้ายนี่เป็นพรสวรรค์ที่ทุกคนมีติดตัวมาตั้งแต่เกิด นั่นก็คือการป้องกันตัวเองด้วยสัญชาตญาณนั่นเอง เมื่อผู้คนทะลักเข้ามาในรถไฟ ต่างคนต่างก่อพื้นที่ของตัวเอง ทำให้เกิดเป็นกำแพงสองฝั่ง คือฝั่งที่หันหน้าออกไปทางประตูด้านซ้ายและฝั่งที่หันหน้าออกไปทางประตูด้านขวา อย่างไรก็ตามเมื่อถึงสถานีถัดไป ผู้คนที่ขึ้นมาใหม่จะพยายามสอดแทรกตัวเข้าไปตรงกลาง และสร้างพื้นที่ของตัวเองขึ้นมาใหม่ ระหว่างกำแพงทั้งสองฝั่ง ในขณะนั้นเอง ผู้ที่เป็น ‘กำแพง’ จะเกร็งหลังให้แข็งขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพื่อไม่ให้ผู้มาใหม่เข้ารุกล้ำ หรือทะลุเข้ามายังพื้นที่ของตัวเอง คนญี่ปุ่นชอบการท่องเที่ยวและการกินมาก

ดอกซากุระ5ประเภทของญี่ปุ่น

ซากุระ (Sakura) ดอกไม้ประจำชาติญี่ปุ่นที่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่นมายาวนาน เมื่อดอกซากุระบานก็เหมือนเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าฤดูหนาวกำลังจะสิ้นสุดลงและเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว

ดอกซากุระที่เราเห็นเป็นสีชมพูเหมือนๆกันในฤดูใบไม้ผลิที่ญี่ปุ่นนั้น แท้จริงแล้วซากุระมีนับร้อยสายพันธุ์และก็มีความแตกต่างกันทั้งสี ขนาด รูปทรงของกลีบ จำนวนกลีบ ซึ่งในบทความนี้ก็จะขอแนะนำให้รู้จักซากุระ 10 ประเภทดังต่อไปนี้

jumbo jili

  1. โซเมโยชิโนะ (Somei-Yoshino)
    เป็นดอกซากุระสายพันธุ์ที่มนุษย์ผสมพันธ์ขึ้นมาใหม่ โดยนำซากุระป่าจากภูเขาโยชิโนะในนารามาปรับปรุงสายพันธ์ มีการปลูกกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในฤดูใบไม้ผลิ ลักษณะเด่นคือมีกลีบ 5 กลีบสีขาวอมชมพูอ่อน และใบสีเขียวบนต้นจะยังไม่ผลิจนกว่าซากุระจะบานเต็มที่แล้ว ทำให้เห็นสีชมพูบานสะพรั่งเต็มต้นได้อย่างชัดเจน

สล็อต

ระยะเวลาเริ่มบาน : ต้นเดือนเมษายน

  1. ยามะซากุระ (Yamazakura)
    อีกหนึ่งสายพันธุ์ของซากุระที่พบเห็นได้ทั่วญี่ปุ่นโดยส่วนใหญ่จะอยู่ตามป่าเขา ไหล่เขาหรือในป่า ลักษณะเด่นคือมักจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและมีกลีบดอก 5 กลีบสีขาวหรือสีชมพูอ่อน คล้ายๆกับโซเมโยชิโนะ แต่ต่างกันตรงที่ใบอ่อนสีเขียวจะผลิใบพร้อมๆกับตอนที่ดอกซากุระบนต้นบานเต็มที่ (ซากุระพันธ์อื่นจะบานทีละอย่าง ดอกก่อนแล้วตามด้วยใบ)

สล็อตออนไลน์

ระยะเวลาเริ่มบาน : ต้นเดือนเมษายน

  1. ชิบะซากุระ (Shiba-Sakura)

ชิบะซากุระ อีกหนึ่งสายพันธุ์ของซากุระที่รู้จักกันดีในชื่อพิงค์มอส ลักษณะเด่นคือเป็นดอกไม้พันธุ์เล็ก ที่อยู่บนพื้นดินมองดูคล้ายพรมขนาดใหญ่ ขนาดของดอกประมาณ 1.5 เซนติเมตรและมีหลายสีนอกจากสีชมพู เช่น สีแดง ม่วงและขาวมีช่วงเวลาที่บานยาวนานไปจนถึงปลายฤดูใบไม้ผลิหรือราวๆปลายเดือนพฤษภาคม

jumboslot

ระยะเวลาเริ่มบาน : ปลายเดือนเมษายน

  1. เอโดะฮิกังซากุระ (Edo Higanzakura)
    ที่มาชื่อ “ฮิกัง” มาจากวันเริ่มฤดูใบไม้ผลิที่เวลากลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน บวกกับเป็นสายพันธุ์โบราณที่มีมาตั้งแต่ก่อนสมัยเอโดะ (พันธ์ดังๆอย่าง โซเมอิโยชิโนะ เป็นพันธ์ที่ผสมขึ้นมาใหม่) ลักษณะเด่นคือโคนของดอกซากุระจะมีพองกลมและมีกลีบดอกสีชมพูขนาดเล็ก ส่วนใหญ่แล้วต้นเอโดะฮิกังซากุระที่พบจะเป็นต้นซากุระที่ต้นใหญ่และเก่าแก่ บางต้นมีอายุนับพันปีเลยทีเดียว

slot

ระยะเวลาเริ่มบาน : ต้นเดือนเมษายน

  1. ยาเอะซากุระ (Yaezakura)
    หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ซาโตะซากุระ (Satozakura) เป็นซากุระสายพันธุ์ในสกุล Yaezaki ลักษณะเด่นคือตัวดอกนั้นมีกลีบดอกสีขมพูอ่อนถึงเข้มเรียงแบบสลับซ้อนกันหลายชั้นเหมือนเป็นพุ่มใหญ่ ส่วนใหญ่จะมีตั้งแต่ 10-50 กลีบ และเคยพบมากที่สุดถึง 300 กลีบในดอกเดียว บางครั้งจึงมองดูคล้ายดอกคาร์เนชั่นเลย ซากุระในญี่ปุ่นมีความสวยงดงามมากค่ะ

รู้จักวิธีหาคู่และนัดบอดในญี่ปุ่น กับ “โกคง”

สิ่งที่ทำให้รู้จักกับใครสักคนนั้น นอกจากการทำงานด้วยกัน เรียนโรงเรียนเดียวกัน หรือการเข้าชมรมรวมกลุ่มทำกิจกรรมกันแล้ว การไปนัดบอดแบบญี่ปุ่นหรือ “โกคง” ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ผู้หญิงและผู้ชายได้ทำความรู้จักกันได้ง่ายขึ้นค่ะ

หาแฟนในญี่ปุ่นทำไมต้อง “โกคง”
“โกคง” (合コン) หรือภาษาไทยเราเรียกกันว่า “นัดบอด” คือกิจกรรมหาคู่แบบนึง เป็นการนัดพบปะสำหรับชายหญิง (ที่ไม่รู้จักกันมาก่อน) เพื่อทำความรู้จักกัน หากถูกใจและมีความสนใจในกันและกัน ก็อาจมีการพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่การคบหาดูใจและแต่งงานค่

jumbo jili

การหาคู่แบบนัดบอดของญี่ปุ่น
ผู้อ่านหลายๆท่านคงอาจเคยได้ยินคำนี้มาก่อน หรือเคยเห็นผ่านตาในการ์ตูนญี่ปุ่นที่นางเอกมักจะไปนัดบอดกับกลุ่มเพื่อนๆ แล้วไปเจอกลุ่มหนุ่มหล่อในงานปาร์ตี้ที่มีกลุ่มผู้หญิงกับผู้ชายจำนวนเท่าๆกัน นั่งกินดื่ม คุยทำความรู้จักกันค่ะ นั่นแหละคือ “โกคง” สิ่งที่เห็นในการ์ตูนนี้มีอยู่จริงๆนะเอ้อ!

การนัดบอดนั้นมีหลากหลายรูปแบบมากๆ และคนหลายๆช่วงอายุก็เข้าร่วมการนัดบอดด้วยค่ะ โดยเฉพาะหนุ่มสาววัยทำงาน ที่ไม่ค่อยได้พบปะหรือมีโอกาสได้เจอกับคนนอกบริษัท แต่คราวนี้เราจะมาแนะนำนัดบอดแบบเป็นอีเว้นท์ ที่มีทีมงานเป็นคนจัด ว่าที่งานนัดบอดนั้นทำอะไรบ้างค่ะ!

วิธีใช้บริการหาคู่หรือนัดบอดในญี่ปุ่น
การเข้าร่วมอีเว้นท์หาคู่แบบนัดบอด อย่างแรกคือหากิจกรรมในเว็บไซท์ค่ะ แน่นอนว่าต้องรู้ภาษาญี่ปุ่น และต้องอยู่ญี่ปุ่นค่ะ มีหลากหลายเว็บให้เลือกเลยเช่น
แอบเข้าไปลองดูได้นะคะ

สล็อต

โดยทุกเว็บนั้นเราสามารถเลือกพื้นที่ที่เราอยู่ และเลือกวันที่เราสามารถไปได้เพื่อที่จะค้นหาอีเว้นท์ที่เราสามารถเข้าร่วมงานได้ค่ะ อีเว้นท์แต่ละอีเว้นท์จะมีเนื้อหากิจกรรม เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่แตกต่างกันออกไป

ยกตัวอย่างเช่น อีเว้นท์นัดบอดสำหรับคนที่ชอบการ์ตูน อีเว้นท์นัดบอดเฉพาะคนที่มีเงินเดือนสูง อีเว้นท์นัดบอดสำหรับคนอายุช่วง20-29ปีเท่านั้น เป็นต้น โดยสามารถดูเนื้อหาเพิ่มเติมได้จากการคลิกเข้าไปดู

นอกจากนี้การไปนัดบอดแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนไป คนเดียวก็สามารถไปได้แบบไม่ต้องเขินเลยค่ะ ในอีเว้นท์ส่วนใหญ่จะต้องจ่ายค่าเข้าร่วม โดยราคาจะขึ้นอยู่กับสถานที่ที่จัดเเละเนื้อหาของอีเว้นท์นั้นๆ ผู้หญิงจะราคาถูกหน่อย ประมาณ 500-3000 เยน ส่วนผู้ชายจะแพงกว่า ราคา 5000-9000 เยนค่ะ เมื่อเราเลือกอีเว้นท์ที่ถูกใจเราได้แล้ว เราก็ทำการซื้อบัตรออนไลน์ สามารถเลือกจ่ายได้ทางบัตรเครดิตหรือจ่ายที่ร้านสะดวกซื้อ แล้วแต่เว็บที่ใช้ แล้วพอถึงวันงานก็แค่ยื่นอีเมล์ยืนยันให้ทีมงานดู ก็เรียบร้อย สามารถเข้าร่วมงานได้สบายๆเลย

สล็อตออนไลน์

ตัวอย่างงานอีเว้นท์หาคู่ แบบคุยกัน 1-1
ตัวอย่างที่ๆไปมา เมื่อไปถึงที่จัดงานแล้วพนักงานก็จะให้หมายเลขของเรา พร้อมกระดาษมาหนึ่งใบค่ะ ทุกคนจะได้เหมือนกันหมด ในกระดาษนั้นจะมีให้กรอกชื่อ อายุ ความสนใจ งานอดิเรก ที่อยู่คร่าวๆว่าอยู่แถวไหน วันหยุดวันไหนบ้าง ทำงานอะไร สเปคเป็นแบบไหนเป็นต้น (แล้วแต่อีเว้นท์นะคะ บางทีก็ละเอียดถึงเงินเดือนเดือนละเท่าไหร่ก็มีค่ะ)

โดยจะจัดที่นั่งโดยให้ชายหญิงนั่งตรงข้ามกัน คุยกันแบบ1-1 (แต่บางทีก็มีคุยกันแบบหลายๆคน หรือคุยกับคนข้างๆบ้างค่ะแล้วแต่บทสนทนาในตอนนั้น ส่วนอีเว้นท์ที่มีคนเข้าร่วมมากถึง100คนอาจจะได้นั่งเป็นโต้ะรวม และอาจไม่ได้คุยครบทุกคนนะคะ) ในขณะที่คุยก็จะนำกระดาษข้อมูลของเราที่เขียนนั้นให้อีกฝ่ายดูไปด้วย การคุยทุกรอบจะมีการจับเวลา พอเมื่อจบเวลาก็จะมีการสลับคู่ไปเรื่อยๆค่ะ เพื่อให้เราได้คุยกับทุกคนในงาน (ผู้ชายจะวนไปเรื่อยๆ ส่วนผู้หญิงนั่งอยู่กับที่ค่ะ) หากถูกใจกันและอยากคุยต่อก็จะมีการขอแลกไลน์กันค่ะ ส่วนอาหารและเครื่องดื่มนั้นจัดเต็มมากๆ เครื่องดื่มสามารถดื่มได้ไม่อั้น (เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มี อิอิ)

jumboslot

พอได้คุยกับทุกคนแล้วและหมดเวลางานเลี้ยง ก็จบงานนัดบอดค่ะ สำหรับงานนัดบอดที่เราได้ไปเข้าร่วมมานั้น มีกิจกรรมจับคู่ในตอนสุดท้ายด้วย โดยจะให้ทุกคนทั้งชายและหญิงเขียนหมายเลขของฝ่ายตรงข้ามที่ชอบ ถ้าหากว่าต่างฝ่ายต่างเลือกกันก็จะได้รางวัลพิเศษด้วย (ไม่ได้มีทุกงานนะคะ แล้วแต่ทีมงานว่ามีกิจกรรมนี้หรือไม่) โดยคนที่ถูกใจกันหรืออยากคุยกันเพิ่มเติมก็มักจะไปหาร้านอื่นทานข้าวหรือดื่มกันต่อรอบสองเพื่อทำความรู้จักกันให้มากขึ้นค่ะ

สรุปเรื่องการนัดบอดในญี่ป่น
การนัดบอดแบบ “โกคง” ที่ใช้บริการเว็บตัวอย่างเหล่านี้ ค่อนข้างปลอดภัยค่ะ เนื่องจากมีทีมงานคอยดูแล คนที่ไปคนเดียวก็ไม่ต้องเขินด้วย แถมสถานที่ๆจัดก็จะไม่ใช่ที่อโคจรหรือสถานที่อันตราย แต่ข้อเสีย

slot

คือทุกอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ ถ้าหากไม่ค่อยได้ภาษาญี่ปุ่นก็จะลำบากในการทำความรู้จักฝ่ายตรงข้าม เพราะว่าจะต้องเจอกับคนหลากหลายรูปแบบหลากหลายอาชีพ ศัพท์ยากๆหรือความเร็วในการพูดแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันด้วย ใช่ว่าทุกคนจะพูดช้าๆให้เราฟังนะ

ส่วนข้อดี นอกจากจะได้ดื่มไม่อั้น (5555) ก็ยังได้รู้จักคนใหม่ๆและเรียนรู้เรื่องต่างๆเกี่ยวกับชีวิตคนญี่ปุ่นเยอะแยะเลยค่ะ ถึงแม้ว่ากับบางคนจะไม่ได้พัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นคนรัก แต่ก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้เนอะ ใคร ที่อยากมีแฟนหรือมีเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่นก็ลองมางานนัดบอดกันสักครั้งนะคะ ^^ หลากหลายรูปแบบในญี่ปุ่น